ดูดไขมันขา บอกลาร่างพัง!! สุดจะทนกับปัญหาเดิมๆ

มุมโปรดสมัยก่อน ต้องถ่ายรูปครึ่งตัวเท่านั้นค่ะ
ปกติเราเป็นคนที่มีเนื้อหนังค่อนข้างมาก ยิ่งตั้งแต่สะโพกลงไป แทบไม่อยากบรรยายว่าขาใหญ่ขนาดไหน ให้รูปมันเล่าเรื่องเอาเองแล้วกัน แต่ขอบอกไว้ตรงนี้อย่างนึงว่า พอเรามีหุ่นที่ไม่สวย มันทำให้เราเป็นคนเก็บตัว และขี้อายมากขึ้น กางเกงขาสั้นนี่ไม่มอง ไม่ซื้อมาหลายปีแล้ว ยิ่งเวลาถ่ายรูปไม่ต้องพูดถึงเลย รูปถ่ายเต็มตัวไม่มีซักรูป เพราะไม่กล้าถ่าย
ขาใหญ่ขาเบียด เดินทีเครียดเลยค่ะ เพราะขามันเสียดจนเจ็บ
จุดหักเหที่ทำให้เราคิดที่จะ ดูดไขมันขา คือ เวลาเราเดินขามันเบียดจนรู้สึก”แสบขา” และอีกอย่างคือวิ่งไม่ได้ เพราะมันเหนื่อยมาก พอถึงจุดนั้นเรามานั่งคิดว่าเราจะปล่อยให้ร่างมันพังจริงๆ หรอ เลยทำให้ตัดสินใจจะดูดไขมันขาค่ะ
มาปรึกษากับคุณหมอค่ะ ใส่กางเกงตัวเก่งมาเลย
หลังจากตัดสินใจแล้ว ก็นัดคิวปรึกษาที่คลินิก ย่านสยาม ชื่อมาสเตอร์พีซ คลินิก ตอนประเมินคุณหมอเค้าก็ดูหนักใจอยู่นะ เพราะเค้าบอกว่าถ้าคนที่อ้วนมากไปก็จะไม่เหมาะกับการดูดไขมันซักเท่าไหร่ เพราะการดูดไขมันเป็นการดูดส่วนเกินออกค่ะ ไม่ใช่การลดความอ้วน ยิ่งถ้าร่างกายอ่อนแออาจมีผลข้างเคียงได้ แต่เราก็อยากดูดไขมันจริงๆ เลยขอคุณหมอว่า “ขอดูดไขมันตรงขาแค่พอให้เราได้เดินได้ แบบขาไม่เบียดก็ได้ เพราะแค่ตอนนี้จะออกกำลังกายยังทำไม่ได้เลย เพราะขามันเบียดมากเกินไป” คุณหมอเลยตกลงที่ทำให้ แต่คุณหมอก็บอกว่าจะทำให้แบบที่เซฟกับตัวเรามากที่สุดด้วย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับร่างกาย เราประทับใจตรงที่คุณหมอใส่ใจและไม่เห็นแก่เงิน แต่เห็นแก่ลูกค้าจริงๆ ค่ะ
มา ดูดไขมันขา แล้วนะคะ ตื่นเต้นนิดหน่อย แต่ดีใจมากกว่าที่จะได้เอาไขมันออกไป
ส่วนที่คุณหมอประเมินมาว่าเราต้องดูดไขมันออกจะเป็นช่วงต้นขา สะโพก และแก้มก้น เพื่อให้เรามีรูปร่างที่ได้สัดส่วนมากขึ้น จากที่เราสอบถามเครื่องดูดไขมันของที่นี่เค้าใช้เป็นเครื่อง Vaser Liposuction 2.2 ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด มีข้อดีตรงบวมช้ำน้อยและลดผิวเปลือกส้มได้ดีกว่าเครื่องรุ่นเก่า
ไขมันที่ออกมาค่ะ คุณหมอทำดีมาก ไม่เจ็บเลยค่ะ
หลังจาก ดูดไขมันขา เสร็จเราถ่ายภาพไขมันไว้อยู่ ดูไม่ได้เยอะมาก (แต่หลังจากที่ทำไปได้ 1 เดือนก็เห็นผลดีอยู่เหมือนกันค่ะ) หลังจากทำเสร็จคุณหมอแนะนำวิธีดูแลตัวเองว่าควรทำอย่างไรบ้าง และแนะนำเรื่องการออกกำลังกายให้อีกด้วย เพื่อให้ขาเรียวอยู่กะเราไปนานๆ
อาทิตย์แรกขายังบวมอยู่ค่ะ เลยไม่ได้ดูเล็กลง แถมมีรอยช้ำอยู่ด้วย เลยใส่ขายาวกับซัพพอร์ตไว้ตลอดวันค่ะ
14 วัน ก็ใส่ขาสั้นได้แล้วค่ะ ไม่มีรอยช้ำให้เห็นแล้ว ซัพพอร์ตก็ยังใส่นะคะ แต่มีถอดบ้างให้ขาได้หายใจหน่อย
ตอนนี้เราดูดไขมันขาไปได้ 1 เดือนแล้ว เริ่มออกกำลังกายเบาๆ คือเดินประมาณวันละ 30 นาที – 1 ชั่วโมงอยู่ค่ะ เพราะขาไม่เบียดแล้ว เลยทำให้ออกกำลังกายง่ายขึ้น แต่ถ้าถามว่าตอนนี้ขาเราเรียวเล็กเลยมั้ย เราว่ามันก็ดูเล็กลงนิดหน่อย ประมาณ 1-2 นิ้วแหละค่ะ ส่วนเกินและผิวเปลือกมันดูน้อยลง แต่ไม่ได้ขาเรียวเหมือนขนาดพริตตี้หรอกนะคะ มันแค่ดูสมส่วนมากขึ้น ใส่กางเกงขาสั้นได้ง่ายขึ้น
1 เดือน สังเกตเห็นมั้ยคะ ว่าขาไม่เบียดแล้ว
ซ้ายก่อน-ขวาหลังค่ะ ส่วนเกินหายไปเยอะค่ะ ขาไม่เบียดแล้วด้วย ดีใจมาก
1 เดือนค่ะ ขาดูเรียวสมส่วนมากขึ้น ใส่ขาสั้นสบายเลยค่ะ
ซ้ายก่อน-ขวาหลัง เห็นชัดเลยค่ะว่าขาเรียวกระชับ
จากเมื่อก่อนที่ไม่เคยคิดใส่ขาสั้นเลย ตอนนี้ก็เริ่มหยิบมาใส่แล้วค่ะ แต่จากที่เราเข้าไปติดตามผลกับคุณหมอ คุณหมอก็บอกว่ายังไงมันจะกระชับขึ้นเรื่อยๆ กว่าจะเข้าที่จริงๆ ก็ประมาณ 6 เดือนได้ค่ะ ตอนนี้เราทำได้แค่ใส่ซัพพอร์ตและพยายามออกกกำลังกายเพื่อให้ขาและหุ่นลดลงเร็วๆ แต่ก็มีแพลนว่าจะดูดไขมันเพิ่มแต่คงเป็นช่วงเอวแทนค่ะ ช่วงขาเราคงรอให้เข้าที่ก่อนแล้วอนาคตเป็นยังไงคงว่ากันอีกแหละค่ะ ส่วนตอนนี้เราพอใจกับสิ่งที่เราลงทุนไป เราคิดว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะช่วยให้เรามีหุ่นที่ดีในอนาคตได้ค่ะ ถ้าใครอยากเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบเรา ลองเข้าไปปรึกษากับคุณหมอได้ค่ะ ที่ไลน์ @masterpiececlinic คุณหมอชื่อคุณหมอชาคริต เค้าให้คำแนะนำได้ดีมากๆ ค่ะ
ขอขอบคุณกระทู้รีวิวจาก www.dodeden.com
สนใจทำศัลยกรรม ติอต่อที่
Call Center : 02-1054370
Facebook : masterpiececlinicbeauty
Instagram : masterpiece_clinic
Line : @masterpiececlinic
Youtube : Masterpiece Clinic