ประสบการณ์หลัง ดูดไขมันหน้า จากพ่อแม่แอนตี้ศัลยกรรม ตอนนี้LOVEเลย!!
ฮาโหลลล สวัสดีค่ะ ชื่อไตเติ้ลนะคะ ขอแทนตัวเองว่า เรา นะคะ วันนี้จะมาบอกเล่าประสบการณ์หลังไปดูดไขมันกรอบหน้าและเหนียง facial vaser liposuction ที่ masterpiece clinic จะบอกว่าเราของเราแอบมีสตอรี่นิดนึง 555 เพราะพ่อแม่เราแอนตี้ศัลยกรรม โดยเฉพาะคุณพ่อนี่หึ่มม โนโน ห้ามเลยจ๊ะ (บ้านเราเป็นคนจีนค่ะ ใครเป็นคนจีนน่าจะพอเข้าใจนะคะ หึหึ) แต่สำหรับเรา คือเกิดมาครั้งเดียวป้ะ ก็ขอทำอะไรให้ตัวเองดูดีขึ้นหน่อยเหอะ ตอนนั้นคือเรายังไม่ได้มีความคิดจะดูดไขมันใบหน้าอยู่ในหัวเลยค่ะ สิ่งที่เราอยากทำตอนนั้นคือทำตาสองชั้น ซึ่งถ้าพูดถึงทำตาสองชั้น คลินิกที่ดังติดอันดับเลยก็ต้องที่นี่ เลยตัดสินใจแอบไปปรึกษาถามราคาก่อนแล้วค่อยมาตะล่อมคุณแม่ให้ใจอ่อน จะได้มีแบ็คอัพค่ะ 555
แต่หลังจากที่เราได้เข้าไปปรึกษาที่คลินิกกับคุณหมอ คุณหมอกลับคิดว่าตาสองชั้นหลบในปัจจุบันของเราดูดีแล้ว แต่เราควรจะ ดูดไขมันหน้า เพราะหมอบอกว่าหน้าเรามีไขมันสะสมค่อนข้างเยอะ ตรงข้างมุมปากเอย ขอบกรามเอย เหนียงเอย ถ้าดูดไปหน้าจะเปลี่ยนชัดเจน โดนทักว่าต้องไปฉีดเมโสโบท่อกซ์บ่อยใช่มั้ย ถ่ายรูปได้มุมเดียวใช่มั้ย แทงใจดำหนูมากค่าา ตอนนั้นยอมรับว่าแป่ว นอยด์มาก คืออยากไปทำตาสองชั้นแต่ทำไมหมอให้หนู ดูดไขมันหน้า ล่ะ 5555 เลยแบบขอกลับบ้านไปคิดดูก่อนค่ะ ใจจริงก็กะจะบายที่นี่เลยแหละ เพราะอย่างที่เราบอกว่าดูดไขมันหน้าไม่เคยอยู่ในหัวเราเล้ยยยย
แต่ที่หมอทักเรื่องถ่ายรูปมุมเดียวเป็นอะไรที่แทงใจดำสุดๆ เพราะเราเป็นคนถ่ายรูปมุมเดียวจริงๆ คือมุมหันข้าง 45 องศา ถ่ายหน้าตรงไม่รอดอ่ะ หน้าบาน 555555555555555555 คือถามว่าเคยไปฉีดพวกเมโสแฟต โบท่อกซ์มั้ย เราเคยฉีดโบท่อกซ์ประมาณต้นปี ลดลงไปนิดนึงแต่ก็ดูไม่ต่างมากเลยไม่ได้ไปฉีดซ้ำ ทำใจยอมรับสภาพใบหน้าตัวเอง แต่ยอมรับเลยต้องแต่โดนหมอทักเราก็กลับมาดูรูปเก่าๆ ส่องกระจกดูหน้าตัวเอง เออ เราหน้าบานจริงๆ อ่ะ .. :’(
จนแล้วจนรอดจ้า นัดไปปรึกษาอีกหนึ่งรอบกับคลินิก 555 แต่รอบนี้คอลเซ็นเตอร์นัดคิวให้ปรึกษากับคุณหมออีกคนนึง เป็นคุณหมอที่เชี่ยวชาญดูดไขมันของที่นี่ค่ะ พนักงานน่ารักมากเลย รอบนี้ตัวจริงคุณหมอหล่อเข้มอ่ะ 55555 ตอนปรึกษาก็มองแต่หน้าคุณหมอ คุยเสียงก็เพราะ โอ๊ยย เลยรับปากคุณหมอว่าจะกลับมาทำกับคุณหมอนะคะ 5555555555555555 เห้ยแต่แบบพอกลับมาบ้านนึกขึ้นได้ ยังไม่ได้บอกพ่อแม่ 555555555 เลยเริ่มค่ะ คุยกับคุณแม่ก่อน เราก็ขุดมาพูดชักแม่น้ำทั้งห้าเลยจ้า ดูดไขมันหน้าไม่น่ากลัวนะแม่ ไม่ได้เสริมสิ่งแปลกปลอมอะไรเข้าไปด้วย ทำครั้งเดียวจบ ไม่ต้องฉีดอะไรด้วย ดีนะแม่ ใช้เวลาขอประมาณ 2 คืนค่ะ แม่ก็ใจอ่อนยอมไปคุยกับคุณพ่อให้ ซึ่งจริงๆ แล้วพ่อไม่ยอมให้ทำค่ะ แต่เราเลยขอต่อรองขอจ่ายเองทั้งหมด พ่อก็เลยโอเค อยากทำก็ทำ แต่เกิดอะไรผิดพลาดพ่อจะไม่สนใจ มีแอบงอนอ่ะ55555555
เนื่องจากว่าการดูดไขมันใบหน้าของเราจะต้องดูดหลายจุด เลยต้องเว้นช่วงนัดคิวผ่าตัดไปอีก 2 อาทิตย์เลยค่ะ เพราะต้องงดวิตามิน แอลกอฮอล์ แต่ปกติเราทานวิตามินอยู่เลยต้องรอยาวเลย .. แต่ก็อดใจนับวันรอ จะบอกว่าที่ไปทำก็ไม่ได้แพลนลางานล่วงหน้าเลย กะจะไปทั้งหน้าบวมๆ นั่นแหละ แต่ไม่รู้ว่าจะบวมหนักขนาดไหน ต้องรอลุ้นเนอะ ตื่นเต้นจัง X)
มาถึงวันทำจริง จะบอกว่ากลัวมากกกกกกกกกกกกกก คือหลังจากเตรียมตัวล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนชุดมาเข้าห้องผ่าตัด คุณหมอรออยู่ในห้องแล้วค่ะ ก่อนอื่นคุณหมอจะวาดบริเวณที่จะดูดไขมันแล้วให้เราดูในกระจกว่าพอใจมั้ย หรือโอเคมั้ยถ้าดูดบริเวณนี้ แล้วก็จะอธิบายว่าออกมาแล้วหน้าจะเล็กลงเยอะเลยเพราะไขมันสะสมเราเยอะ พอวาดเสร็จก็ถึงเวลานอนบนเตียงค่ะ แอบแว้บหันไปเห็นพวกเครื่องมือใจเราแบบ พ่อออออออมารับหนูหน่อย 55555555555555555555 ถ้าใครเคยดูดไขมันน่าจะเคยเห็นเครื่องกันเนอะ ตัวที่ดูดไขมันเราจะเป็นคล้ายๆ แท่งเหล็กยาวๆ ทิ่มเข้าไปในเนื้อเราแล้วก็ดูดไขมันออกเข้าเครื่องกักไขมันที่เป็นโหลใสๆ อยู่ค่ะ ยอมรับเลยนะว่าถ้าตอนนั้นเค้าถามว่ายังจะทำต่อมั้ย เราจะบอกว่าไม่ แล้วก็ลุกออก พอหมอเข้ามาความหล่อของหมอก็ไม่ช่วยอะไรแล้วอ่ะ บอกหมอว่ากลัว 55555 เลยโดนให้ยาคลายเครียดทางเส้นเลือดก่อนเลยค่ะ พอรู้สึกว่ายามันวิ่งก็เริ่มหัวโล่งๆ รู้สึกตัวเบา แล้วก็เผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัวเลย ตื่นมาอีกที คุณหมอปลุกว่าเสร็จแล้ว เราต้องลุกไปนอนห้องพักของคนไข้อีกห้องนึง แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าหน้าเหน้อนี่ตึงมากกกกกกกกกก เหมือนสวมหน้ากากแฟนซีหนักๆ ทับอยู่ มันไม่เจ็บแต่ก็แทบไม่อยากขยับตัวเลย สุดท้ายต้องลุกค่ะ คนประคองหามไปสองคน เป็นหนึ่งในโมเมนท์ที่ทรดหดในชีวิตของเรา 55555
สังเกตดีๆ เรามีไขมันสะสมตรงมุมปากเยอะมาก เหมือนหนูแฮมเสตอร์555555555555555555
ที่นรกแตกจริงๆ คือ 3 วันหลังทำ ทานอาหารลำบากมากกกก เราทานอาหารโดยใช้หลอดอ่ะ ดูดๆ เอา ได้แม่นี่แหละบดอาหารให้เราทาน รักแม่มากกกกกก พอวันจันทร์ เราก็ไปทำงานทั้งหน้าบวมๆ แต่บวมกว่าที่คิดไว้นะอาจเป็นเพราะคลินิกให้เราใส่คล้ายๆ เฝือกพันบริเวณใบหน้าติดต่อกัน 1 อาทิตย์ :’)
ครบสองอาทิตย์เป็นอะไรที่ดูเปลี่ยนมากถ้าเทียบกับก่อนทำ คือจากที่มีแก้มตุ่ยๆ กรอบหน้าห้อยๆ หน้าบานๆ เหนียงยานๆ คือมันหายไปแทบหมดเลย แอบสังเกตว่าหน้าดูตอบๆ ขึ้นนิดหน่อยด้วย ตรงนี้ก็ต้องรอให้เนื้อเยื่อมันกระชับตัวซึ่งต้องรอเวลาอย่างที่คุณหมอบอก คือ 3 เดือนขึ้นไปค่ะ แถมได้ลักยิ้มมาแบบงงๆ เวลายิ้ม ชอบมากกกกกกก แต่จะบอกว่าที่เหนือความคาดหมายสำหรับเราคือพ่อแม่เราชอบ บอกว่าออกมาดูดี โหงวเฮ้งดีเลย ทำแบบนี้ก็พอแล้วไม่ต้องไปเสริมอะไร หน้ากำลังพอดี ไมได้เรียวแหลมแบบที่ป๊าม๊าไม่ชอบ 5555555555 แต่ก็ยังโดนเม้งไว้อยู่ว่า ห้ามเลยนะ เรื่องไปทำตา ตาแบบนี้สวยแล้ว แต่ก็น้าา ในใจก็อยากทำอยู่ลึกๆ แต่อีกใจนึงก็แบบเออหลายคนก็บอกว่าชั้นตาหลบในแบบนี้ก็เก๋ดีไปทำทำไม อื้มม อนาคตไว้ว่ากันค่ะ แต่ปัจจุบันคือตอนนี้หน้าอัพเดตประมาณ 3 เดือน ถ่ายรูปได้ทุกมุมเลย มุมข้าง มุมตร้อง จะกล้องหน้า กล้องโปร dslr มาเหอะ อะไรก็พร้อมสู้ 55555555555555 แล้วเสียงตอบรับคนรอบตัวคือดี ดูพอใจมากกว่าตัวเราอีกอ่ะ อย่างญาติเราที่เป็นคนจีนก็ชมว่าไปทำอะไรมา ผอมลงหรอ หน้าได้รูปโหงวเฮ้งดีมาก บลาๆๆ ~~~~~ ยิ่งเพื่อนเรานี่ไวมากกกก ไปปรึกษาหมอนัดคิวรอทำกันไปแล้วจ้าา 555555555 จะบอกว่ามันโอเคมากเลยนะ คือไม่ต้องไปฉีดไปเสริมอะไร ทุกอย่างเป็นของที่พ่อแม่ให้มา ใครที่หน้าบานมาเลยค่ะ ดูดไขมันหน้าซะ จบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบปิ๊ง !
ขอขอบคุณกระทู้รีวิวจาก dodeden