แก้จมูก 3 รอบ จนเกือบพัง!


เราชื่อลีนนะคะทุกคน ต้องกราบสวัสดี และขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ วันนี้อยากมาเล่าเรื่องสยองที่ครั้งนึง เราพลาดไปทำจมูกแบบไม่คิดจนจมูกเกือบพัง ตอนนั้นมันรู้สึกชีช้ำมาก นั่งโขกหัวตัวเองว่าทำไม ไม่ยอมหาข้อมูลให้ดีก่อน เลยอยากมาเป็นอุทาหรณ์ ให้เพื่อนๆ ที่คิดจะศัลยกรรม หาข้อมูลให้เยอะๆ และดูว่าวิธีที่จะทำนั้นดีจริงหรือเปล่า ขอเล่าประสบการณ์พลาดครั้งแรกให้ฟังก่อนทำจมูกครั้งแรก…ตอนนั้นเรายังเป็นนศ.อยู่ค่ะ เงินทองก็มีไม่มาก มีจากรับงานพาร์ทไทม์บ้าง นิดๆ หน่อยๆ เก็บสะสมจนได้จำนวนนึงก็ตัดสินใจทำจมูก ตอนนั้นใจนึงก็อยากให้ดูสวยและเป็นสาวมากขึ้น อีกใจนึงก็อยากทำเพื่อให้รู้สึกมั่นใจ เกณฑ์ในการเลือกที่ทำจมูกของเราเลย ดูเรื่องเงินเป็นหลัก ของบน้อยๆ แต่ปัง จนไปเจอที่นึง ที่นี่เค้าค่อนข้างดังในหมู่นศ.ค่ะ คนไปทำเยอะ ถ้าจมูกพังขึ้นมาคลินิกน่าจะอยู่ไม่ได้
ทำเสร็จได้จมูกทรงแหลมพุ่ง มาประดับหน้า ถ้าถามว่าชอบมั้ย ตอนนั้นก็ชอบแหละค่ะ เพราะเป็นดั้งแรกที่เรามี ช่วงแรกเราก็ว่าดีนะคะ มีคนทักว่าหน้าเปลี่ยน ดูหน้าเฉี่ยวคมขึ้น ก็อยู่มาได้ 4 ปี เริ่มมีอาการเสียวแปลบที่ปลายจมูก ตามด้วยซิลิโคนเอียงจนเห็นชัด ตบท้ายด้วยจมูกเริ่มแดงค่ะ ตอนนั้นก็กลัวทะลุเลยหาที่ แก้จมูก อีกครั้ง คราวนี้จะไม่ขอพลาดแบบครั้งแรก!ทำจมูกครั้งที่สอง…คิดไว้ว่า อยากแก้จมูกใหม่ แต่คงไม่ขอไปที่เดิม เพราะบริการค่อนข้าง…เราเลยเลือกที่ใหม่ เราหาข้อมูลจากในพันทิปค่ะ จนไปเจอที่นึงรับถอดจมูกราคาไม่แพง ราคาประมาณ 3000 บาท เลยรีบไปปรึกษาหมอเพราะอยากเอาออกให้เร็วที่สุด ทนกับจมูกนี้ไม่ไหวแล้วเราก็ตัดสินใจทำ จากที่คุยๆ คุณหมอก็บอกว่าซิลิโคนมันยาวเกินไป และก็โด่งเกินไป ปลายจมูกเลยบาง คุณหมอจะลดโด่งและความยาวให้ ซึ่งเราก็ไม่ใช้คนเรื่องมากอยู่แล้ว คุณหมอก็คุยด้วยง่าย ก็ตัดสินใจขึ้นเขียงเปลี่ยนจมูกซีรี่ย์ใหม่ หวังว่าครั้งนี้คงจบแล้วแหละ แต่…
ทำออกมาแล้วไม่พุ่งเท่าตอนแรกค่ะ ซิลิโคนที่ใช้ก็เป็นแบบ  USA อเมริกาแบบนิ่ม บิดได้ ตอนแรกก็รู้สึกพอใจ แต่หลังจากนั้น 14 วัน จมูกเราอักเสบค่ะ มีอาการบวมและปวดที่ปลายจมูก กลับไปหาคุณหมอ คุณหมอก็ให้ยากลับมากิน ประมาณอาทิตย์นึง ก็หายปวดค่ะ แต่อาการบวมมันไม่ยุบซะอย่างงั้น ใจตอนนั้นก็คิดนะคะว่าจมูกไม่ทะลุก็บุญแล้ว เลยใช้ชีวิตกับซิลิโคนแท่งที่สองมาปีกว่าๆ ฝันร้ายก็กลับมาอีกครั้งค่ะ ครั้งนี้รู้สึกว่าปลายมันบางลง จมูกเริ่มแดง และเอียงค่ะ (แต่ไม่ชัดเท่าตอนแรก) ใจตอนนั้นก็เริ่มกังวลว่าจมูกชั้นจะพังอีกแล้วใช่มั้ย เราจะปล่อยมันไว้ไม่ได้ เลยตัดสินใจกลับไปปรึกษากับคุณหมอท่านเดิม…คราวนี้คุณหมอจะไม่ใส่ปลายให้พุ่งเหมือนตัวแรก เพราะปลายเราบาง คุณหมอเลยตัดขาซิลิโคนออกเพื่อไม่ให้จมูกเรามีปัญหาอีก…


ผลที่ได้คือปลายไม่บางแล้วค่ะ แต่ทรงมันไม่สวยเอาซะเลย ทั้งสั้นทั้งทู่ จากที่ปลายดูใหญ่อยู่แล้ว ก็ยิ่งดูใหญ่กว่าเดิมไปอี๊ก แถมทำไปได้ไม่กี่เดือน จมูกเจ้ากรรมเอียงอีกแล้วค่า จบกันค่ะคุณหมอ ตอนนั้นเราคิดว่าจมูกเราคงไม่ไหวแล้วแหละ ทำมากี่ทีก็เบี้ยวตลอด จะมีที่ไหนที่ทำจมูกให้โด่งโดยไม่ต้องใช้ซิลิโคนมั้ยนะ…

ขอลงทุนกับจมูกซักครั้ง แล้วของานดีงานปังมาให้ข้าเจ้าด้วยเถ๊อะ…ครั้งนี้หาข้อมูลอย่างหนักหน่วงค่ะ อ่านทั้งรีวิว อ่านทั้งบทความ อ่านทั้งความรู้ที่แพทย์เค้าโพสกัน อ่านจนจะบรรลุธรรมแล้วค่า จนสุดท้ายตกผลึกกับคุณหมอท่านนึง ที่ทำจมูกได้โดยไม่ต้องใช้ซิลิโคน ส่วนตัวอ่านทั้งรีวิวและ Ig ของคุณหมอ รู้สึกว่าคุณหมอเก่งมากค่ะ เลยขอเข้าไปปรึกษากับคุณหมอ…


ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะทำจมูกช่วงเดือนธันวาปีที่แล้ว แต่พอได้คุยกับคุณหมอแล้ว คุณหมอบอกว่าเราเคยมีปัญหาจมูกอักเสบ และได้รับการรักษาที่ไม่ดีเท่าไหร่ ดังนั้นคุณหมอจะให้เราทานยารักษาอาการอักเสบก่อน 3 อาทิตย์ค่ะ เพราะคุณหมอกลัวว่าถ้าดื้อทำจมูกไปเลยจะมีปัญหาได้ (เราก็แอบเสียดายนะคะ ว่าไม่มีจมูกใหม่ไปรับงานแต่งของเราตอนเดือนมกรา แต่เพื่อความปลอดภัย และไม่ให้จมูกพังอีก เราก็ต้องยอมค่ะ)…


เสียดายที่ไม่ได้มีจมูกใหม่มารับชุดแต่งงาน ไม่งั้นคงเริศกว่านี้ ช่วงงานแต่งเป็นอะไรที่วุ่นมากจนไม่มีเวลามาสนเรื่องจมูกเลยค่ะ ดีที่ช่างแต่งหน้าเก่งมาก เลยทำให้จมูกของเราดูดีมีเชฟ และดูไม่เบี้ยวค่ะ

แก้จมูก ครั้งนี้ เสียค่าเสียหายไป 120,000 รวมแก้แล้วด้วยค่ะ ยอมเสียแพงขนาดนี้เพราะรู้สึกว่าเทคนิคเค้ายาก และน่าจะช่วยแก้ปัญหาเราได้จริงๆ อยากให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วด้วย ถ้าทุ่มครั้งเดียวแล้วสวย เราว่าผ่าน…

เห็นถ่ายรูปเก็กสวยเช็คอิน แต่จริงๆ แล้วหิวข้าวมากกกกกก เพราะต้องดมยาสลบ เลยไม่ได้กินข้าวเลยตั้งแต่เมื่อคืน…

ทำเสร็จตื่นมาก็จะมีอะไรเต็มหมดแบบนี้แหละค่ะ ถามว่าเจ็บมั้ย บอกได้เลยว่าไม่ ถามว่าหิวมั้ย บอกเลยว่ามาก…

หมดเกลี้ยง ไม่มีเหลือ 5555

หลังจากนอนหายใจด้วยปากครบ 24 ชม. กลับมาคลินิกอีกครั้งเพื่อเอาที่ปิดจมูกและผ้าก๊อซออกค่ะ ดีใจมากที่ได้หายใจทางจมูกซะที แต่หายใจทางปากก็สนุกดีค่ะ 5555…

กลับไปคลินิกอีกทีก็ตอนครบ 7 วัน ตอนนี้ 3 วันแล้ว ทำได้แค่ประคบประหงมกินยา ทำความสะอาดแผลบ่อยๆ

วันที่ 5 แล้ว โผล่หน้าไปทำงาน ที่ทำงานถามเอาอะไรมาปิดจมูกทำไม 5555 ขุ่นพี่ขาหนูเสริมจมูกมาข่ะ (ใกล้จะครบ 7 วันละนะจ๊ะ ลุ้นๆ) แอบส่องทรงจมูกผ่านเฝือก คิดไว้ว่าถอดเฝือกแล้วต้องสวยแน่ๆ…


ครบ 7 วันแล้วเจ้าค่ะ วันนี้มันก็จะเสียวหูเสียวจมูกหน่อยๆ เพราะเรามาตัดไหม ตัดเสร็จเห็นทรงจมูก แล้วแบบเห้ย เลอค่ามากมายคุยกับคุณหมอ คุณหมอบอกตอนนี้จมูกยังไม่เข้าดี ก็อย่าเพิ่งไปจับหรือบิดมัน อดใจรออีกไม่ถึงเดือนเห็นทรงสวยแน่ๆ…

รวมมิตรหลัง แก้จมูก ได้ 7 วันค่ะ ทรงสโลปสวยพุ่งไปสู่จักรวาลเลยค่ะ

หลังทำ 13 วัน จมูกไม่ค่อยบวมแล้ว อย่าถามหารอยช้ำเลยค่ะ หาแทบไม่เจอ

หลังทำไป 15 วัน ถ่ายรูปมุมข้าง มันก็จะละมุนหน่อยๆ

20 วันละค่า ตอนนี้ติดถ่ายรูปมุมข้างมาก เพราะจมูกซี่รี่ย์ใหม่เลยนะเนี่ย

ถึงจมูกเรายังไม่ครบเดือน แต่ตอนนี้ก็เห็นทรงว่าสวยมากๆ มันดูมีมิติ ไม่แข็งทื่อเหมือนตอนเสริมซิลิโคนแล้วค่ะ ใครๆ ก็ทักว่าหน้าเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้เลยตั้งแต่เปลี่ยนทรงจมูกใหม่ 5555 เอาเป็นว่าเราชอบ แฟนชอบ เพื่อนชอบ ก็พอใจแล้วค่ะ อีกอย่างการเสริมแบบนี้มันไม่ทำให้ทะลุด้วย เพราะใช้แต่กระดูกในตัวเราทั้งนั้น ตอนนี้ก็เลยหายห่วง ไม่ต้องลุ้นว่าจมูกจะเบี้ยว เอียง ทะลุหรือเปล่าค่ะ เราอาจเขียนเยอะไปหน่อย แต่ทุกอย่างคือสิ่งที่เราเจอกับตัวเอง และไม่อยากให้คนอื่นได้เจอเหมือนเราค่ะ…

ขอขอบคุณกระทู้รีวิวจาก www.dungdong.com