ศัลยกรรมเปลี่ยนตัวเอง…สาวเกาหลีแบบหนูยังยอมสยบหมอไทย!!! (รูปเยอะนะ)

ก่อนศัลยกรรมที่มาสเตอร์พีซคลินิก

สวัสดีค่ะㅎㅇ เราชื่อยอรึม (최여름) น้า เราเป็นคนเกาหลีแท้ ๆ เลยค่ะ ตั้งแต่เกิดมาพ่อกับแม่ก็มาอยู่ที่ไทยแล้ว ยอรึมเลยพูด อ่าน เขียน ภาษาไทยได้แบบสบายยเลย อาจจะมีผิดบ้างเพราะบางทีก็กลับไปเที่ยวเกาหลีนาน ๆ กลับมาก็จะติดความเกาไปพักนึง 5555 เพื่อนที่ไทยก็ตั้งชื่อไทยให้ยอรึมเหมือนกันว่า “แตงโม” ไม่ก็ “โมโม” ยังไงถ้าพิมพ์อะไรผิด ก็เตือนยอรึมได้เลยน้า กระทู้นี้ก็กระทู้แรกเลยที่ยอรึมตั้งเกี่ยวกับการศัลยกรรมของตัวเองเลย ผิดพลาดอะไรยอรึมก็ขออภัยด้วยนะค่า 방가 ^——^

คุณยอรึม-สาวเกาหลีที่มีปัญหาตาตี่และหน้าไม่เท่ากัน

จริง ๆ ยอรึมเองก็เคยเข้าพวกคลินิกความสวยความงามนะ ส่วนใหญ่ก็จะทำผิว แต่ไม่เคยทำศัลยกรรมอะไรมาก่อนเลยค่ะ คือยอรึมไม่ใช่คนไม่มีดั้งนะ ดั้งก็พอมี(บ้างงง)แต่รู้สึกว่าทรงมันไม่สวย ส่วนตาก็เป็นแบบสาวเกาหลีทั่วไปเลยคือตาชั้นเดียว ตาตี่ ตาเล็กมาก แต่ปัญหาหลักของยอรึมอีกอย่างนึงเลยคือ หน้ายอรึมไม่เท่ากันค่ะ หน้าไม่สมส่วน ทำให้บางทีพอถ่ายรูปมารู้สึกเลยว่าหน้าเบี้ยว คืออทำเอาหมดความมั่นใจเลยแหละ พิมพ์มาเยอะและมาดูรูปยอรึมก่อนทำกันก่อนดีกว่าเนาะ อิอิ

คุณยอรึมก่อนศัลยกรรมที่มาสเตอร์พีซคุณยอรึมก่อนมาที่มาสเตอร์พีซคลินิก

ที่จริงตอนแรกยอรึมคิดจะบินไปทำที่เกาหลีเลย แต่เพราะตอนนี้ครอบครัวก็อยู่ไทยหมด แม่ยอรึมก็เป็นห่วง ตอนนี้ก็เรียนที่นี่ด้วย ไปทีนึงก็ต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้น พวกค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก คุณแม่เลยแนะนำยอรึมว่าให้หาที่ทำที่เมืองไทยดีกว่า แค่ให้เลือกที่ดี ๆ ปลอดภัยก็พอ

ยอรึมก็มีปรึกษาเพื่อน ๆ ค่ะ กับหาข้อมูลในเน็ตเยอะมาก วัน ๆ นึงเข้าแต่พวกเว็บรีวิวศัลยกรรม ดั้งโด่ง วันเดอร์ฟูลงี้ ค้นเว็บนู้นเว็บนี้ หาพวกรีวิว ทำจมูก เสริมจมูก เต็มไปหมด คืออยากหาข้อมูลเยอะ ๆ ยอรึมเองไปปรึกษามา 4 – 5 คลินิกพอมานับ ๆ ดู บางที่ก็ต้องเสียเงินสำหรับปรึกษา ยอรึมก็ยอมเสียนะ เพราะว่ายอรึมคิดว่าเจอหมอโดยตรงน่าจะดีกว่า แต่บางที่คือมันยังไม่ตอบโจทย์ที่ยอรึมอยากทำค่ะ

จมูกแบบที่คุณยอรึมต้องการ

ที่ยอรึมต้องการในการทำครั้งนี้คือ อยาก ทำจมูก แบบเดียวกับคุณหมอที่เกาหลีเลยค่ะคือการทำแบบปรับโครงสร้างจมูกของเราเอง แบบธรรมชาติอะค่ะ แต่มี 1 ในคลินิกที่ยอรึมเข้าไปปรึกษาเป็นแบบ Open ค่ะ คือที่ Masterpiece Clinic ที่นี่จะเรียกการทำจมูกแบบที่ยอรึมต้องการทำว่าเทคนิค Nose reconstruction ค่ะ

คุณยอรึมเข้าปรึกษาแพทย์ที่มาสเตอร์พีซ

ตอนยอรึมเข้าไปปรึกษาต้องใช้เวลารอคิวอยู่สักพักนึงเลย คนค่อนข้างเยอะ ใช้เวลารออยู่สักพักนึง คือเบื่อไปเลยเหมือนกัน คุณหมอที่ยอรึมเข้าพบคือ คุณหมอเบนซ์ (โฆษิต เอี้ยวฉาย) ระหว่างปรึกษาคุณหมอให้คำแนะนำมาเยอะมากกก บอกว่าถ้ายอรึมต้องการแก้ปัญหาจริง ๆ มันต้องมีหลายอย่างที่ต้องทำ ที่หมอแนะนำมาก็มี ยกคิ้ว ตาสองชั้น ทำจมูก เติมไขมันใบหน้า ดูดไขมันกรอบหน้าค่ะ ฟังแล้วแบบว่า Shock! ก็ไม่คิดว่าต้องทำเยอะขนาดนี้ แต่ด้วยความที่ยอรึมเองก็ยังไม่มีเงินเก็บเยอะเท่าไหร่ สิ่งที่ยอรึมสนใจหลัก ๆ ก็คือ ทำจมูก ทำตา กับ ดูดไขมันกรอบหน้าค่ะ เพราะตายอรึมเองก็ตี่มาก และก็โดนเพื่อนล้อบ่อยด้วยว่าตาหรือเม็ดงา

คุณยอรึมพบแพทย์ที่มาสเตอร์พีซคลินิก

ยอรึมก็เลยขอคุณหมอปรึกษาเพิ่มเรื่องดูดไขมันกรอบหน้าค่ะ เพื่อแก้เรื่องหน้าไม่เท่ากัน ดีที่คุณหมอที่ยอรึมปรึกษาเรื่อง Nose reconstruction  เป็นคนเดียวกันที่ทำเรื่องดูดไขมันพอดี ออฟชั่นคุณหมอครบจริง ๆ ก็เลยจัดไปเลยค่ะ 555 แต่คุณหมอบอกว่า ของยอรึมจะดูดแค่ข้างเดียว เพราะว่าหน้าไม่เท่ากัน ถ้าดูดแล้วจะปรับให้หน้าออกมาเท่ากันและสมดุลค่ะปรึกษาเสร็จก็ออกมา ก็นั่งรอคิววนไปอีกรอบค่ะ เพื่อเจอคุณหมอทำตา คราวนี้นั่งรอคิวไม่นานค่ะ คนน่าจะทยอยได้เข้าปรึกษากันไปแล้ว เลยรอแค่แปปเดียว

ตอนเข้าไปปรึกษา คุณหมอเห็นชื่อยอรึมก็ทักมาเป็นภาษาเกาหลีด้วย^^ คุณหมอน่ารักมาก คุณหมอที่ยอรึมเข้าพบคือคุณหมอหนูค่ะ (กาญจนา ลีลาภัทรานุรักษ์) หมอหนูบอกยอรึมว่า ตายอรึมแทบไม่มีชั้นเลย วิธีแก้ของคุณหมอที่แนะนำคือเป็นการทำตาแบบเทคนิคเกาหลีจัดเต็ม คือ เปิดหัวตา หางตา ทำตาสองชั้น จัดเรียงไขมันตา!! ซึ่งเป็นเทคนิคเดียวกับที่เกาหลีที่ยอรึมเคยหาข้อมูลมาเลยค่ะ เทคนิคนี้จะช่วยให้ตาดู หวาน กลมโต และมีสองชั้นแบบสไตล์ที่สาวเกาหลีชอบทำกันเลย

เข้ามาปรึกษาที่นี่ถือว่าคุ้มมากค่ะ คือไม่ต้องบินไปเกาหลี แต่ก็ทำออกมาสวยในสไตล์เกาหลีได้เลย หลังยอรึมปรึกษาเสร็จก็ตัดสินใจมัดจำคิวเพื่อจองการทำศัลยกรรมแบบไม่ลังเลใจเลยค่ะ เพราะแต่ละคำแนะนำของคุณหมอที่บอกมามันตรงกับที่ยอรึมอยากทำมาก ๆ เหมือนของเกาหลีที่อ่านมาเลย ส่วนเรื่องความสามารถก็มั่นใจอยู่แล้วค่ะ คุณหมอมีรีวิวเยอะมาก ๆ

ป้ายคลินิกมาสเตอร์พีซมองเห็นได้อย่างชัดเจน ขนาดมาแต่เช้านะ แดดเปรี้ยงเลย!!

ข้ามมาวันผ่าตัดเลยนะคะ ยอรึมเข้ามาคลินิกแต่เช้าเลยค่ะ เพราะวันนี้ยอรึมต้องทำศัลยกรรมทั้งหมด 3 อย่างคุณหมอแต่ละท่านคิวก็แน่น ๆ เลยจะต้องจัดเวลาให้เป๊ะสักหน่อย เข้ามาถึงยอรึมก็แจ้งชื่อกับพี่พนักงานเลยค่ะ สักพักก็จ่ายเงินเพิ่มให้ครบจำนวนเงิน พี่พนักงานก็จะมาอธิบายยาที่ยอรึมจะต้องเอากลับมาทานหลังทำศัลยกรรมเสร็จค่ะ ได้ยามาเยอะมากก คร่าวๆก็จะเป็นพวกยาฆ่าเชื้อ แก้ปวด ลดบวม อะไรแบบนี้ค่ะ ยังมีผ้าซัพพอร์ตหน้าเพื่อให้หน้ากระชับหลังดูดไขมันมาด้วยค่ะ

ต่อไปก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับเตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัดเลยค่ะ ที่นี่จะมีชุดชั้นในสำหรับให้ใส่ตอนผ่าตัดด้วย กับเสื้อคลุม พอเปลี่ยนเสื้อเสร็จก็ไปทำความสะอาดหน้าให้สะอาดที่สุดเป็นการฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ก่อนเข้าห้องผ่าตัดเลยค่ะ

ชุดชั้นในสำหรับใส่ผ่าตัดและเสื้อคลุม

คุณยอรึมพร้อมเข้าห้องผ่าตัดจัดเต็มค่าวันนี้!!!

เจาะเปิดเส้นก่อนผ่าตัด ก่อนเข้าห้องผ่าตัดพี่พยาบาลจะพาไปเจาะเปิดเส้นค่ะ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการผ่าตัด

ศัลยกรรมแรกของวันนี้คือตาสองชั้นค่ะ บรรยากาศในห้องผ่าตัดพายอรึมตื่นเต้นอยู่หน่อย ๆ จนตัวเกร็งมาก พี่พยาบาลก็มาบอกว่าให้ผ่อนคลายค่ะ ไม่ต้องกลัวนะ มาชวนคุยจนยอรึมเองก็หายเครียด ลงบ้างค่ะ หลังจากนั้นคุณหมอหนูก็เข้ามา พอคุณหมอหนูเข้ามาก็ให้ยอรึมลุกขึ้นมาประเมินตาค่ะ เหมือนจะมาร์คจุดสำหรับการผ่าตัด และก็จะวัดชั้นตาให้ยอรึมดูว่าประมาณนี้รู้สึกว่าสูงไปไหม สำหรับยอรึมเองอยากได้ชั้นตาสูง ๆ ค่ะ คือเบื่อตาหมวย ๆ ตี่ ๆ แล้ว อยากดูตาโต ๆ หวาน ๆ ไปเลยอะไรแบบนี้ค่ะ

คุณหมอวาดตาก่อนทำตาสองชั้น

คุณหมอวาดเสร็จก็ให้ยอรึมนอนเพื่อเตรียมทำเลยค่ะ ตอนนั้นความรู้สึกตื่นเต้นมันกลับมาอีกแล้ว คุณหมอก็ชวนคุยอีกรอบค่ะ เหมือนจะจับได้ว่ายอรึมเกร็ง 55555 คุณหมอใจดีมากจริง ๆ คือพยามบอกว่าตลอดว่าไม่ต้องเกร็งนะ ตอนนี้กำลังจะทำอะไร แล้วก็จะถามตลอดเลยค่ะว่าเจ็บไหม เริ่มแรกคุณหมอจะฉีดยาชาตรงที่จะผ่าตัดก่อน แล้วก็รอสักพักให้ยาชาออกฤทธิ์ค่ะ ยอรึมรู้สึกเจ็บก็ตอนที่ฉีดยาชานิดนึงค่ะ นอกจากนั้นคือรู้สึกเฉย ๆ เลย คุณหมอจะให้ยอรึม ลองลืมตา หลับตา มองไปด้านบนบ้าง สลับ ๆ ไปค่ะ เหมือนว่าจะได้ดูชั้นตาของของยอรึมในหลาย ๆ มุม หมอหนูใช้เวลาทำอยู่ข้างละประมาณ 15 นาทีได้เลยค่ะ

แพทย์ใช้เวลาทำตาสองชั้นข้างละ15นาที

ยอรึมรู้สึกได้เลยว่าคุณหมอละเอียดม้ากก มือก็เบามากด้วย พอคุณหมอทำสักพักก็ให้ยอรึมลองลืมตาหลับตาอีกรอบ คุณหมอก็สะกิดตัวเบา ๆ แล้วบอกว่าเสร็จแล้วน้า  พี่พยาบาลก็มาประคองยอรึมให้ลุกขึ้นมานั่งค่ะ คุณหมอก็เอากระจกมาให้ดู พอยอรึมดูก็รู้ว่ามันจะบวม ๆ หน่อย แต่คุณหมอบอกว่าพึ่งผ่าตัดถือว่าเป็นปกติ พี่พยาบาลก็พายอรึมไปที่ห้องพักฟื้นค่ะ เพื่อนอนพักรอดูดไขมันกรอบหน้า กับ ทำจมูก Nose reconstruction  ค่ะ

ภาพคุณยอรึมหลังทำตาสองชั้นเสร็จ

นอนพักรอดูดไขมันกรอบหน้าและทำจมูก

สักพักพี่พยาบาลก็มาปลุกให้ตื่นค่ะ บอกว่าห้องผ่าตัดพร้อมแล้ว ก็พายอรึมที่ห้องผ่าตัดต่อไป ตอนนี้รู้เลยว่าตัวเองอึดมากกก555555 แต่ยอรึมเองก็อยากทำแบบนี้นะ เพราะจะได้พักฟื้นไปเลยทีเดียว ถ้าทุนหนา กว่านี้ยอรึมทำวันเดียวให้สวยจบไปเลย! แต่ก็นะ เงินในกระเป๋าบางทีก็ไม่เข้าใจเราค่ะ 555

แพทย์ตรวจสอบก่อนทำ Nose reconstruction

คราวนี้ไม่ใช่ห้องผ่าตัดเดิมค่ะ ห้องนี้จะใหญ่กว่าหน่อย อุปกรณ์เยอะมาก เข้าไปถึงยอรึมนี่ตะลึงเลย คือของเยอะมากจริง ๆ เข้ามานั่งในห้องผ่าตัด คราวนี้พี่พยาบาลจะมีทั้งหมด 4 คนเลยค่ะ พี่พยาบาลก็จะเหมือนรีเช็คยอรึมอีกรอบว่า ทานข้าวครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ มีโรคประจำตัวไหม ตอนนี้ทานยาหรืออาหารเสริมอะไรอยู่หรือเปล่าค่ะ เพราะว่าการทำ Nose reconstruction  จะต้องวางนอนหลับในการผ่าตัดจึงต้องงดอาหารและน้ำก่อนทำ 6 – 8 ชั่วโมง สำคัญมาก ๆ นะคะเพราะถ้าเราลืม อาหารที่เราทานไปอาจจะย้อนกลับมาทางหลอดลมทำให้เราสำลักได้ อันตรายมาก ๆ ค่ะ ห้ามลืมเลยนะ

แพทย์ตรวจสอบก่อนปรับโครงสร้างจมูก

พอทุกอย่างพร้อมพี่พยาบาลก็แจ้งคุณหมอเบนซ์ให้เข้ามาที่ห้องผ่าตัด ลืมบอกไปค่ะว่าที่ห้องผ่าตัดตรงกำแพงจะมีรูปยอรึมแปะอยู่เต็มห้องเลย เพราะคุณหมอจะใช้ดูเวลาที่ผ่าตัดค่ะเป็นภาพหน้าของเราแบบชัด ๆ เพื่อเทียบกันแบบชัดเจน คุณหมอเข้ามาถึงก็ถามเลยค่ะว่าตื่นเต้นไหม ทำตาจัดเต็มแบบเกาหลีมาเดี๋ยวก็สวยแล้ว ตอนนี้พร้อมรึยัง คุณหมอเป็นกันเองมาก ๆ ดูเป็นสายเฮฮาอะ จากนั้นคุณหมอก็จะมาวาดจุดมาส์กหน้าเหมือนที่คุณหมอหนูทำเป๊ะเลย เพื่อมาส์กจุดสำหรับการผ่าตัดค่ะ แต่ครั้งนี้จะวาดเยอะหน่อย เพราะดูดไขมันเสร็จแล้วคุณหมอก็จะทำ Nose reconstruction การทำจมูกที่บอกว่าเทคนิคเหมือนของเกาหลีต่อเลยค่ะคุณหมอมาส์กจุดสำหรับการผ่าตัด

คุณหมอบอกว่าหน้ายอรึมมีสัดส่วนที่ไม่เท่ากันค่ะ ดูดไขมันจะเป็นดูดไขมันแค่ข้างเดียวเพื่อให้หน้าออกมาเท่ากันค่ะ ส่วนจมูกคุณหมอจะใช้กระดูกอ่อนกลางจมูกเสริมให้ทรงจมูกพุ่ง กับ เสริมสันดั้งด้วย Gore – Tex ให้สันดูพุ่งโด่งเลยค่ะ

Nose reconstruction

พอคุณหมอประเมินเสร็จก็เตรียมขึ้นเขียงแล้วค่ะ ดูดไขมันกรอบหน้าจะให้ยาด้วยเทคนิค Painless เป็นการให้ยาเพื่อให้คนไข้รู้สึก เบลอ ๆ หรือ อาจจะหลับเลยก็ได้ค่ะ ส่วนยอรึม หลับค่ะ! 555555 คุณหมอเองน่าจะมือเบาด้วย ยอรึมเองเลยหลับยาวตั้งแต่ดูดไขมันกรอบหน้า จนถึง Nose reconstruction  เลย คือรู้ตัวอีกทีเหมือนมีคนเรียกชื่อค่ะ เป็นคุณหมอวิสัญญีแพทย์ที่ปลุกยอรึมค่ะ ตอนตื่นมายอรึมก็รู้สึกเบลอ ๆ น่าจะเป็นฤทธิ์ของยาด้วยแหละ พี่พยาบาลกับคุณหมอวิสัญญีแพทย์ก็พายอรึมไปที่ห้องพักฟื้นค่ะ

พยาบาลดูแลอย่างดีหลังการผ่าตัด

พอถึงเตียงห้องพักฟื้นยอรึมเองก็หลับไปอีกยาว ๆ เลย จนมีพี่พยาบาลมาปลุกว่าให้ลุกขึ้นมาทานข้าวต้ม กับ น้ำหวานก่อน จะได้ทานยาเพื่อไม่ให้ปวดแล้วก็จะได้นอนต่อยาว ๆ ค่ะ แต่ตอนนั้นยอรึมเองก็ไม่รู้สึกเจ็บหรือปวดนะคะ มันจะตึง ๆ มากกว่า กับยังไม่ค่อยชินที่ต้องหายใจทางปาก เพราะคุณหมอจะใส่อุปกรณ์ที่ทำให้จมูกอยู่ทรงค่ะ ยอรึมเองก็ไม่แน่ใจอะว่ามันเรียกว่าอะไร อ้ออเกือบลืมไปพี่พยาบาลเอาผ้าซัพพอร์ตรัดหน้ามาใส่ให้ก่อนนอนพักด้วยค่ะ

หลังการผ่าตัดพยาบาลจะเสิร์ฟข้าวต้มและน้ำหวาน ข้าวต้มที่พี่พยาบาลเอามาให้ค่ะ

ยอรึมน่าจะนอนไปอีกสักพักเลยค่ะ พอตื่นขึ้นมาเจอเพื่อน เพื่อนตกใจมาก บอกว่าแกต้องทำขนาดนี้เลยเหรอวะ 555 จากนั้นก็เอาของมาให้พากันกลับบ้านค่ะ กลับมายอรึมก็ทานยาตามที่คุณหมอจัดมาให้แล้วก็นอนหลับยาว ๆ เลย

หลังทำศัลยกรรมวันที่1หลังการทำศัลยกรรม

วันที่ 1 จะบอกว่าวันแรกแทบไม่รู้สึกเจ็บแผลจมูกเลยเป็นแบบที่คุณหมอบอกเอาไว้เลย แต่จะลำบากตรงที่ต้องหายใจทางปากไปก่อนค่ะ ลุกขึ้นมาทานข้าวเสร็จก็กินยาแล้วก็นอนพักเลยค่ะ ยอรึมจะเน้นนอนด้วยหมอนสูงนะคะ

วันที่2หลังการทำศัลยกรรม

วันที่ 2 เคยได้ยินมาว่าวันที่สองมักจะเจ็บ แต่พอมาเจอด้วยตัวเองจริง ๆ มันก็มีเจ็บบ้างค่ะ แต่มันอยู่ในระดับที่ชิว ๆ เจ็บน้อยกว่าที่คิดเยอะเลย ตอนที่รู้สึกเหมือนจะเจ็บพอกินยาก็คือไม่รู้สึกอะไรค่ะ ก็จะมีอาการข้างเคียงจากการกินยาก็คือ มึน ๆ เพลีย ๆ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่กับการนอนนี่แหละค่ะ ถือว่าพักผ่อนไปในตัว ช่วงสาย ๆ ก็แวะเข้าไปที่คลินิกเพื่อฉีดยาฆ่าเชื้อ กับ ทำความสะอาดแผลหลังทำที่คลินิกค่ะ คุณหมอบอกว่าอาจจะมีอาการคัดจมูกไปอีกประมาณ 1 สัปดาห์ เป็นเรื่องปกติค่ะ

วันที่3-6หลังการทำศัลยกรรม

วันที่ 3 – 6 วันนี้สามารถออกไปข้างนอกใช้ชีวิตได้ตามปกติเลย ก็จะมีเฝือกที่จมูกติดอยู่แบบสวย ๆ แต่ไม่เหมือนเฝือกพวกแป้งขาว ๆ นะคะ แต่หลังจากผ่านช่วงวันแรกมาได้แล้ว ก็เริ่มปรับตัว และ อาการเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ ทานยาตามที่หมอสั่ง ซึ่งจะไม่แน่นเท่าวันแรก ยังต้องใส่เฝือกอยู่ค่ะ จะเน้นทานพวกอาหารอ่อน ๆ อยู่ค่ะ พอวันที่ 6 ก็เตรียมตัวไปที่คลินิกอีกครั้งเพื่อเจอคุณหมอ และตัดไหมค่ะ

วันที่7 แพทย์นัดตัดไหม

วันที่ 7 วันนัดตัดไหม ในที่สุดก็ครบกำหนด 7 วันที่จะได้ถอดเฝือกกับตัดไหม สามารถหายใจทางจมูกได้เกือบปกติแล้ว โดยรวมยังมีบวม ๆ อยู่พอควรนะคะ เพราะเคสของยอรึมต้องตอกกระดูกด้วย

หลังผ่านมา 1 สัปดาห์ ก็รู้สึกว่าร่างกายเริ่มปรับตัว อาการที่มีเจ็บหูบ้างบางครั้งก็เริ่มไม่ค่อยมีแล้วค่ะ จะมีเกร็ง ๆ เพราะค่อนข้างรู้สึกระวังจมูกตัวเองบ้าง พอเวลาผ่านไปอาการก็จะค่อยบรรเทาลงเรื่อย ๆ ค่ะ แค่ไม่กี่วันก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติเลยค่ะ จนบางคนแทบไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ายอรึมไป

รอยแผลจากการใช้กระดูกอ่อนหลังหู

หลังจากนี้ก็จะมาดูแลพวกรอยแผลหลังทำจมูกและดูดไขมันให้ออกมาสวยสมใจ และ ดูเนียนมากยิ่งขึ้น เพราะเคสของยอรึมมีใช้กระดูกอ่อนหลังหู ก็จะมีรอยแผลนิดหน่อย แต่แผลตรงจมูกไม่ต้องทาก็ได้ค่ะ ยอรึมทาพวกเจลรักษาแผลเป็น เพราะตัวเราเองจะเป็นคนที่มีรอยแผลนูนแดงง่าย กันไว้ดีกว่าแก้เนอะ ๆ

ยาทารอยแผลที่แพทย์แนะนำอันนี้เป็นยาที่ยอรึมใช้ทารอยแผลค่ะ เป็นยาที่คุณหมอแนะนำมาว่าเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับบริเวณแผลได้ดี

คุณยอรึมหลังศัลยกรรมที่มาสเตอร์พีซ

สรุปโดยรวม

คุณยอรึมพอใจกับมาสเตอร์พีซคลินิก

การตัดสินใจทำศัลยกรรมทั้งหมดของสาวเกาหลีแต่ใจอยู่ไทยแบบยอรึม ถือว่าพอใจมากก กับผลหลังทำค่ะ เพราะรู้เลยว่าหน้าตัวเองเปลี่ยนไป ชอบมองตัวเองในกระจกมากขึ้น แต่งหน้า แต่งตัวหลายแบบ หลายสไตล์ หลังจากทำเสร็จแล้ว รู้ได้เลยว่า ฝีมือของคุณหมอ และความพร้อมของตัวเองนั้นสำคัญมาก ก่อนหน้านี้ยอรึมเป็นคนออกกำลังกายเยอะ และ ค่อนข้างจะดูแลตัวเอง เลยทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ไว ช้ำน้อย จนเพื่อน ๆ ยังไม่อยากจะเชื่อว่าไปทำศัลยกรรมมาจริง ๆ เลยค่ะ หลังทำศัลยกรรมเสร็จ ยอรึมเองก็มีงานเข้ามาพวกงานถ่ายสื้อผ้า ถ่ายโฆษณาด้วย ถือว่าที่ทำไปมันคุ้มค่ามากจริง ๆ

หลังศัลยกรรมมีงานถ่ายแบบเข้ามา

ยังไงหากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจก็ลองเข้ามาปรึกษาที่ Masterpiece Clinic ดูได้นะคะ เผื่อได้ผลลัพธ์ที่ประทับใจกลับไปแบบยอรึมค่า ^–^ @masterpice_clinc

ขอบคุณกระทู้รีวิวจาก dungdong