เรื่องจริงจากการเสริมคาง “ต้อม รัชนีกร” ทั้งฉีดฟิลเลอร์และเสริมซิลิโคน

สำหรับต้อม ต้อมก็เป็นผู้หญิงที่อยากมีหน้าเรียว วีเชฟ ด้วยอายุตอนนี้ก็เข้าใจว่าเราจะกลับไปเป็นสาวสวยเอาะๆ มันไม่ได้แล้ว 555 สิ่งที่จะช่วยเพิ่มความสวย ความมั่นใจได้ต้องอาศัยวิธีทางการแพทย์เข้ามาช่วยนี่แหละค่ะ เรื่องราวของต้อมจะเป็นยังไง ลองอ่านกันดูนะคะ ว่ากว่าจะสวยจนถึงทุกวันนี้ ต้อมเจออะไรมาบ้าง

ตอนแรกต้อมเข้าใจว่าการฉีดฟิลเลอร์มันจะออกมาดูธรรมชาติกว่าการ เสริมคางซิลิโคน พอหมดก็เติมได้เรื่อยๆ แต่ความจริงมันไม่ใช่เลยค่ะ

ครั้งแรกต้อมได้ไปฉีดฟิลเลอร์ที่คลินิกหนึ่ง (อันนี้ขอไม่บอกนะคะ) หลังฉีดก็รู้สึกว่า เอ่อ มันก็เรียว ยาวดีนะ หน้าวีสวย แบบทันใจเลยแหละ ชอบมาก แต่พอนานไป 1- 2 ปี มันก็สลายไป (คิดไปเอง) ด้วยความที่มันอยู่นานแล้วสลายไปใช่ไหม ต้อมก็เลยต้องไปฉีดเพิ่มอีกค่ะ แต่มันไม่จบแค่นั้นนี่สิค่ะ

ครั้งที่สอง อันนี้เริ่มไม่โอเคละ ไม่ได้ดั่งใจอย่างที่คิดแล้วละค่ะ อีกอย่าง คาง เสียรูป ยิ้มเป็นก้อน ดูไม่ธรรมชาติ คางตุ่ยมาก ดูได้จากรูปด้านล่างเลย

ครั้งที่สาม ต้อมเลยตัดสินใจไปปรึกษากับหมอเพื่อ เสริมคาง แต่ก่อนจะเสริมคาง หมอก็บอกว่า ด้วยความที่เราฉีดฟิลเลอร์มาก่อน จำเป็นต้องขูดออก หลังจากเสริมคางได้ไม่นาน ก็เกิดอาการนอยตัวเอง เหมือนยังไม่พอใจกับคางที่เสริมมา เลยคิดอยากเอาซิลิโคนออกแล้วไม่เสริมแล้ว แต่มันไม่ใช่แค่เอาออกแล้วจะกลับมาเป็นปกตินะทุกคน มันทำให้เราดูมีเหนียง มีเนื้อคางย้อย ไม่กระชับ ตอนนั้นไม่กล้าออกไปไหน ไม่รับงาน ไม่ออกอีเว้น

ครั้งที่สี่ หลังเสริมซิลิโคนแล้วไม่ชอบ เลยกลับไปฉีดฟิลเลอร์อีกครั้ง เพื่ออยากให้เนื้อมันเต็ม ไม่ย้วย แต่ความจริงแล้ว ยิ่งฉีดมันก็ยิ่งไปสร้างผังผืดหนักมาก

สุดท้ายพอคางเริ่มเป็นพังผืดหนักมาก จนจะหมดปัญญาแก้แล้ว เอาล่ะ เป็นไงเป็นกัน ต้อมก็ลองไปปรึกษาคุณหมอที่ รพ มาสเตอร์พีซดู คราวนี้คืองานใหญ่เลย คือต้องขูดคางและเนื้อก็จะหายไป จะเสริมคางยากขึ้น เพราะกลายเป็นคางเรามีโพรง มีช่องโหว่ ใส่ซิลิโคนไปก็หลวมแน่นอน ตอนฟังที่คุณหมอพูดก็งงๆ ตกใจว่าเออจะเสริมซิลิโคนได้ไหม คือถ้าเสริมไม่ได้คางก็จะโหวงๆ ห้อยๆ ไปเลย รับสภาพแบบนั้นไม่ได้แน่ๆ

คุณหมอก็บอกว่า เสริมอีกครั้งเสริมได้นะ แต่ต้องขูดเพิ่มอีก ด้วยความที่ต้องขูด มันเลยทำให้เนื้อตรงคางหายไปเยอะมาก จนทำให้คางเรามีช่องโหว่ พื้นที่เยอะ ประเด็นคือใส่ซิลิโคนไม่เต็ม หมอเลยเสริมไปสองชั้น ข้างหน้าแล้วใต้คาง แล้วพอดีว่ามันยังมีหนังที่ย้อยนิดนึง คุณหมอเลยดึง แล้วตัดเย็บเข้า พีคสุดค่ะทุกคน ไม่เคยได้ยินใครเสริมถึงสองชั้นเลย 555

และนี้คือการเสริมคางซิลิโคนครั้งสุดท้ายในชีวิตของต้อมค่ะ

หลังเสริมคาง โชคดีมาก ไม่บวมไม่ช้ำ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะชินหรืออะไร 555 ตอนนี้ก็โอเคละค่ะกับคางซิลิโคน 2 ชั้น ครั้งนี้ ต่อไปก็จะได้กลับมาเต็มที่กับงานสักที ยังไงก็เอาไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับน้องๆ คนไหนที่คิดจะฉีดฟิลเลอร์ หรือทำคางแบบต้อมก็ศึกษาดีๆ ก่อนทำนะคะ ไม่อยากให้มีคนพลาด+พังแบบกรณีของต้อมอีกค่ะ