ไขมันเอ้ย!! ฉันสัญญาจะเอาออกให้ได้ (ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม)

ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม

คำเตือน

รีวิวนี้เหมาะสำหรับคนแก้มใหญ่หน้าบานเท่านั้น

ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม

แก้มผมป่องมากเลยใช่ไหมครับ *.*

ผมโน๊ตครับ เป็นคนหนึ่งที่มีแก้มเยอะมาก เนื่องจากมีเชื้อสายจีนส่วนหนึ่ง เวลาอ้วนนิดหน่อยแก้มจะเริ่มออกแล้ว ยิ่งเวลายิ้มไม่ต้องพูดถึง เป็นลูกสองข้างแก้มประดุจซาลาเปาไส้หมู 555 ผมสรรหาลองมาทุกทางให้หน้าดูเรียวขึ้นไม่ว่าจะเป็น โบท็อกซ์ ไปถึงการร้อยไหม แต่ก็ต้องคอยไปฉีดไปเติมเรื่อย ๆ จนเริ่มรู้สึกท้อใจ… อยู่มาวันหนึ่ง!! ผมไปงานรวมรุ่นที่มหาวิทยาลัยเก่าได้ยินสาว ๆ เม้าท์กันเรื่องศัลยกรรม ผมในฐานะที่เป็นชายหนุ่มเพื่อนสาวเยอะจึงเข้าไปร่วมวงสนทนาด้วย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันจนมาถึงเรื่องการ ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม เพื่อนสาวรายหนึ่งเอ่ยออกมาว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ผมจะไม่ต้องไปฉีดไปร้อยไหมอะไรให้เจ็บตัวและเสียเวลาบ่อยๆ

ผมไม่ยิ้มแก้มยังขนาดนี้ ถ้ายิ้มแก้มจะบานขนาดไหน?!!

ดีอย่างที่มีพวกเธอคอยให้คำปรึกษาอะไรพวกนี้ นางยังเสนอรายชื่อโรงพยาบาลมาหลายที่เพื่อที่จะให้ผมลองไปศึกษาและตัดสินใจดูอีกครั้ง แต่เพื่อนสาวผมบลอนด์นางเป็นเจ้าแม่ศัลยกรรมขั้นเทพผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก เรียกได้ว่าตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่มีตรงไหนที่เธอไม่ทำมา เธอแนะนำผมว่าต้องโรงพยาบาลมาสเตอร์พีซดิ กับหมอคนนี้ เอาก็เอา ตัดเป็นตัด ถ้าไม่ดีจริงนางคงไม่บอกต่อผมแน่ๆ

แอบถ่ายรูปหมอชัชช่าบนบอร์ดของโรงพยาบาลมาให้ดูครับ

ผมก็กลับมาหาข้อมูลนะครับแต่หาแค่บางส่วนตั้งใจว่าจะเข้าไปปรึกษาหมอเลยทีเดียว ไหน ๆ ก็แนะนำมาขนาดนี้แล้ว ผมนัดคิวคุณหมอชัชช่าและเข้าปรึกษาทันที คุณหมอชัชช่าแจ้งเพิ่มเติมว่าการ ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม เป็นการตัดแบบถาวร ซึ่งเป็นผลดีตรงที่ถึงผมอ้วน น้ำหนักขึ้น แก้มผมก็จะไม่กลับมาใหญ่ หมอแจ้งว่าแก้มผมมีไขมันค่อนข้างเยอะแต่ไม่มาก ถ้าหมอตัดออกหมอจะไม่ตัดออกทั้งหมด เพราะจะทำให้หน้าผมตอบเกินไป ไม่รับกับใบหน้า

ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม

หลังผ่าตัดทันที! ใช่ครับ ไขมันจากสองแก้มของผม

วันเข้ามาผ่าตัดผมไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก หมอได้แจ้งผมไว้ว่าเป็นการผ่าตัดเล็ก ๆ ไปถึงบ้วนน้ำยาฆ่าเชื้อ วัดความดัน จัดการฉีดยาชา ผ่าตัดและเย็บไหม ผมก็ฟังเพลงไประหว่างรอหมอทำเสร็จ หลังขึ้นเขียงหน้าผมก็เป็นอย่างในรูปแหละครับ รู้สึกมึน ๆ เล็กน้อยหมอน่าจะผสมยานอนหลับเข้าไปด้วย ส่วนไขมันผมก็จะดูเยอะๆหน่อย ขออนุญาติเบลอภาพเพื่อให้ดูไม่น่ากลัวจนเกินไปนะครับ ถ้าใครอยากรู้ว่าหลังผ่าเจ็บไหม ไม่เจ็บเลยครับ แต่วิธีการดูแลตัวเองก็จะต้องลำบากหน่อยในช่วงแรก ๆ จากที่หมอแนะนำผม

หลังผ่าตัด

ผมต้องประคบเย็น เพื่อลดความบวมความอักเสบของแก้มตามที่หมอแนะนำ ที่ลำบากผมที่สุดคือ ทานของเผ็ดไม่ได้นี่สิครับ ผมต้องกินแต่แกงจืด โจ๊ก ข้าวต้ม วนไปอยู่แบบนี้ จากที่ต้องกินกระเพราเผ็ด ๆ น้ำพริกฝีมือแม่ ช่วงนี้ก็คงต้องงดไปก่อน บ้วนน้ำยาบ้วนปากทุกครั้งหลังทานอาหาร ช่วงนี้ผมนี่อนามัยสุด ๆ แต่ผมก็พูดได้ตามปกตินะครับ ไม่ได้มีผลอะไร แต่อาจจะรู้สึกตึง ๆ เพราะรำคาญไหมที่หมอเย็บไว้ให้นิดหน่อย

วันที่สอง

วันที่ 2 หน้าเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนแต่ก็ยังบวม ๆ เหมือนอมอะไรไว้ข้างแก้ม ฟันไม่ได้แปรงกินแต่น้ำผลไม้ นม อะไรที่เป็นน้ำๆ น้องสาวมาทักว่าหน้าเรียวขึ้นนะเฮีย ในใจก็คิดว่ายังไม่หายเลยโว้ยย วันที่ 3 และวันที่ 4 เริ่มเขียวหน่อยๆเหมือนคนเดินชนโต๊ะ บวมกว่าเดิมนิดหน่อย ผมก็ดูแลตัวเองตามที่หมอแนะนำวนไป วันที่ 5 และวันที่ 6 เริ่มเข้าที่ เริ่มจะทานอาหารที่พอเคี้ยวได้บ้างอยากทานอาหารรสจัดใจจะขาดแล้ว!!!!

สองอาทิตย์ผ่านไป

ในที่สุดก็ทานข้าวได้ปกติกับชาวบ้านเค้าสักทีหลังจากที่ทนปากเหม็นมานานก็ได้แปรงฟัน ขัดฟันอย่างนัดมิตติ้งกลุ่มอีกครั้งเจ้าเพื่อนสาวผมบลอนด์ก็ทักว่าเห็นโครงหน้าชัดขึ้น หน้าเรียวได้รูปมากกว่าเดิม เพื่อนที่ทำงานและคนรอบตัวก็ทักเป็นเสียงเดียวกันว่าหล่อขึ้น ส่วนตัวผมก็ไม่ต้องใช้แอ๊ปแต่งรูปบีบแก้มอะไรมากมาย ขึ้นกล้องกว่าเดิม

สองสัปดาห์หน้าเรียวเหมือนร้อยไหม

เทียบกันชัดๆอีกครั้ง ตอนแรกก็ขึ้นกล้องนะครับ ขึ้นอืดมาก 555

ของคนอื่นเป็นอย่างไงไม่รู้แต่ของผมเห็นได้ชัดถึงความแตกต่างเลยครับ แก้มบวม ๆ บาน ๆ หายไป หน้าวีเชฟ กล้ายิ้มเห็นฟันได้อย่างมั่นใจ ไม่เหมือนอาแปะอีกต่อไปแล้วครับ ความพอใจของผมค่อนข้างมากเลยทีเดียว ยิ่งกว่าฉีดเมโสแฟตอีก แล้วไม่ต้องห่วงอีกต่อไปว่าโบท็อกซ์จะหมดอายุเมื่อไหร่ 5555 ราคาที่ผมทำหลักหมื่นต้น ๆ ลอง บวก ลบ คูณ หาร กันดูนะครับ ใครที่ชอบหรือสนใจก็ตาม ๆ กันไปครับ ขอให้ทุกคนเรียวกันถ้วนหน้า โชคดีครับ