เสริมคางสุด V-shape ด้วยซิลิโคนเกรดพรีเมี่ยม…ไม่เข้ามาดูถือว่าพลาด!

ฮัลโหลลลลลฮัลหลิวววววววว สวัสดีค่า เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน ทักทายกันแบบสดใสหน่อยนะคะ แนะนำตัวก่อนเนาะ ชื่อแนน จ้า เป็นพริตตี้ MC นางแบบ (จ้างได้นะคะ 55555 ขายของนิดนึงโน๊ะ) เรื่องมันมีอยู่ว่า แนนเพิ่งไปรับน้องคางใหม่จากมาสเตอร์พีซ คลินิก และได้เริ่มรีวิวตามเพจศัลยกรรมไปบ้างแล้วล่ะ ของดีจึงต้องบอกต่อค่ะ เพราะหลังจากแนน ทำคาง ที่นี่เพียง 5 วัน คางก็เข้าที่ สวยเป็นรูป ที่สำคัญหมอมือเบามากกกค่ะ ปลื้มสุด ๆ เลย

ภาพก่อนเสริมคางของแนน

เท้าความไปก่อนเสริมนะคะ แนนเป็นคนมีคางอยู่แล้วแต่ปลายคางตัดเพราะชอบวางคางบนโต๊ะ เอามือเท้าคางบ่อยๆ เกี่ยวไม่เกี่ยวไม่รู้นะ แต่คางแนนตัดทำให้สวยไม่สุดจริง ๆ เวลาถ่ายรูปคือเหมือนหน้าดูขาดอะไรไปอะค่ะ T^T แนนเลยเริ่มคิดจะศัลยกรรมเสริมคาง แต่ที่เห็นมาส่วนใหญ่เลยคือคางจะออกมาแหลมไม่สมมาตรกับรูปหน้าเลย ทำออกมากลายเป็นหน้ามะม่วง หน้ากล้วย หน้าพระจันทร์เสี้ยวเลยค่ะ แต่แนน ต้องการแค่เพิ่มปลายคางให้ออกมาได้รูปรับกับใบหน้ามากขึ้นแค่นั้นเอง ลองดูภาพก่อนทำของแนนนะคะ

นี่แนนก่อนทำคาง คางเอ้ยยยย คางอยู่ไหมเนี้ยย

ด้านตรงจะเห็นว่าปลายคางแนนตัด ส่วนด้านข้างถือว่าโอเคสำหรับแนนแล้วค่ะ ตรงนี้คือจุดที่แนนระวังเพราะถ้าเสริมออกมาเยอะหน้าแนนจะตรงเป็นมะม่วงมากกว่าเดิมแน่ๆ T^T 5555555555 ขอย้อนอดีตก่อนคิดศัลยกรรมหน่อย เพราะไม่มีคาง แนนเลยคิดว่าถ้าหน้าเรียวขึ้นจะทำให้ดูมีคางมากขึ้น จะบอกว่าแนนเลยลองใช้ผ้ารัดหน้าก่อนนอนทุกคืน เพราะเค้าบอกกันว่าหน้าจะเรียวถ้ารัดบ่อย ๆ สุดท้ายหน้าบานเท่าเดิม แถมเสียเงิน! เสียดายมากพูดเลย อันนึงก็ไม่ใช่ถูก ๆ

หน้าตาประมาณนี้แหละที่เสียเงินไป 5555

ไม่ใช่แค่ผ้ารัดหน้านะคะที่แนนลอง ไปฉีดโบท็อกซ์ลดกรามเพื่อให้หน้าเรียว มันก็เรียวนะแต่อยู่แค่แปปเดียวหน้าก็กลับมาเหมือนเดิม เสียเงินค่าฉีดไปเยอะมาก และผลมันก็ไม่ได้ถาวรอะไร ๆ แปปเดียวก็ต้องไปฉีดอีกนี่แหละที่เบื่อ บางทีกว่าจะรู้เพื่อนก็เริ่มมาแซะบ้างค่ะ อารมณ์แบบ “แก ๆ คางจมหายไปแล้วนะ!” อะไรแบบนี้ บางทีติดธุระอยู่ไกล ๆ แวะไปคลินิกไม่ได้ ก็พาเอารู้สึกไม่มั่นใจตัวเองไปเลยค่ะ เพราะด้วยความที่งานของแนนเป็นงานที่ต้องใช้หน้าตาในการพรีเซนต์อะไรต่าง ๆ เป็นส่วนใหญ่ด้วย พอไม่มั่นใจขึ้นมาที อาการกังวลมันก็ออก ช่างกล้องก็ติเลยค่ะ

พวกรายละเอียดคุณหมอมีให้ดูไว้ชัดเจนเลยค่ะ

แนนเลยเริ่มศึกษาหาข้อมูลเรื่องศัลยกรรมคางก่อนที่จะตัดสินใจทำเยอะมากก แต่หลัก ๆ เลยที่แนนเลือกหาข้อมูลคือ คุณหมอ และ คลินิกศัลยกรรมค่ะ จะเจ็บตัวทั้งทีเนอะ ขอเลือกที่ดี ๆ ไปเลยดีกว่า แนนลองเอารีวิว ข้อมูลต่าง ๆ มาเทียบกันอยู่หลายที่เลยค่ะ ประมาณ 4 – 5 ที่ได้ ค้นไปยันคุณหมอเคยไปสัมมนา หรือไปสอนที่ไหนมาบ้างเลยค่ะ คลิกไปดูประวัติคุณหมอแทบทุกคนเลยค่ะ จนที่สุดแนนก็เลือกที่นี่ค่ะ เพราะพอใจกับรีวิวหลายเคสเลย ยิ่งดูประสบการณ์คุณหมอที่เคยไปสัมมนา หรือ สอนแต่ละที่แล้วก็ยิ่งมั่นใจ

จากที่แนนเข้าไปปรึกษาคุณหมอบุ๊ง (จินตนา อัศวรุ่งสกุล) ก็แนะนำค่ะว่าถ้าเราเป็นคนที่ต้องห่วงความมั่นใจของใบหน้าก็แนะนำให้เสริมคางซิลิโคนไปเลย โดยของที่นี่จะใช้ซิลิโคนเสริมคางเกาหลีแบบพรีเมี่ยมเลยค่ะ คุณหมอเอาให้แนนลองจับซิลิโคนคือมันดูนิ่มไม่แข็งเป็นจนดูไม่ธรรมชาติ จับซิลิโคนแล้วลองจับคาง แนนคิดเลยค่ะว่ามันคงจะเนียนมากอยู่ถ้าใส่เสริมเข้าไป คือเลิศ จับปุ้บนี่อยากนัดคิวทำเลย 55555

พอดีไม่ได้ถ่ายรูปซิลิโคนตอนคุณหมอให้ดูมา เลยหารูปจากอินเตอร์เน็ตมาว่าซิลิโคนจะประมาณนี้ค่ะ

ที่มาสเตอร์พีซ คลินิก คุณหมอบอกเลยค่ะว่าจะเน้นธรรมชาติค่ะ ไม่หลอกตาเกินไป ใช้การผ่าตัดจากด้านในปากไม่เป็นแผลด้านนอก หายไว บวมน้อยมาก (ที่สำคัญเลยน้า โปรดีมากก ตอนนี้น่าจะยังมีโปรอยู่นะคะ) ถามคุณหมอเยอะ โดยเฉพาะเรื่องกลัวเสริมแล้วหน้าจะยาวเป็นมะม่วงเพราะคนใกลตัวที่หลายคน ที่เสริมออกมาแล้วไม่ชอบ ขนาดดูรีวิวมาเยอะนะคะ พอจะทำก็เกิดป๊อดขึ้นมาอีก คุณหมอก็แนะนำ และตอบจนเราหมดข้อสงสัย อยากรู้อะไรถามคุณหมอได้แบบไม่มีกั๊ก คุณหมอทำให้รู้สึกจริง ๆ ว่าต้องทำแล้วล่ะ คือพูดจนรู้สึกมั่นใจที่นี่จริง ๆ 555 (ใจง่ายสุดๆ)

แปรงสีฟันเพื่อความสะอาดน้า

แนนนัดทำช่วงตอนเช้า พอไปถึงพนักงานต้อนรับอย่างดี เอาชุดเสื้อผ้าพร้อมหมวกคลุมผมมาให้เปลี่ยน และมี makeup remover พร้อม cleanser ให้ทำความสะอาดใบหน้าก่อนค่ะ สาวๆคนไหนที่ไม่ได้แต่งหน้ามาแต่ทาแค่กันแดดก็ควรทำความสะอาดเช่นเดียวกันนะคะ แต่ของแนนเป็นการเสริมคางแบบผ่าตัดด้านในเนอะ ก็ต้องมีทำความสะอาดช่องปากด้วยน้า ที่นี่ก็จะมีแปรงสีฟันไว้บริการด้วยจ้า ไม่ต้องพกมาเองให้ยุ่งยากอะไร เลิศเนอะ

พร้อมแล้วค่า สู้ตาย!!!

พอถึงเวลาผ่าที่จะทำแนนก็กลัวเจ็บเหมือนกันแต่ก็ทำใจมาแล้วค่ะว่าต้องเจ็บแน่ๆ ผ่าตัดในปากด้วย ฟังดูน่ากลัวนะคะ แต่พอถึงเวลาจริงๆ คุณหมอมือเบามากๆ ฉีดยาชาบริเวณเหงือกแค่ไม่กี่ครั้งก็จะชาไม่รู้สึกแล้วค่ะ ที่สำคัญที่นี่จะมีการใช้เทคนิค painless จะช่วยให้รู้สึกเบลอ ๆ นิดจะได้ไม่รู้สึกกลัวค่ะ คุณหมอมือเบามากๆ ไม่รู้สึกจนคุณหมอมาบอกว่าทำเสร็จแล้ว แนนนี่ยังงงอยู่เลยว่าเสร็จแล้วจริงดิ พอหลังทำผ่านไปสักชั่วโมงสองชั่วโมงก็มีเริ่มรู้สึกตึงปากบ้างนะคะ มันรู้สึกเหมือนแบบไปทำฟันมาอะไรแบบนี้เลย ไม่ได้เจ็บอะไรมาก คือที่แนนคิดไว้ว่ามันต้องเจ็บมากแน่ ๆ เพราะอ่านมาในเน็ตเยอะมาก แต่คือไม่เจ็บอะค่ะ ตึงมากกว่า ไม่รู้ว่าเกี่ยวไหม เพราะคุณหมอมือเบาด้วยรึเปล่าไม่รู้ไม่ได้กระทุ้งอะไรเหมือนบางคลิปที่เคยดูมา

ที่นี้มาดูอัพเดทแบบวันต่อวันของแนนหลังทำกันเลยดีกว่า! จัดเต็มไปเลยค่ะ

1 วันหลังเสริมคางที่มาสเตอร์พีซ คลินิก

2 วันหลังเสริมคางที่มาสเตอร์พีซ คลีนิก
3 วันหลังเสริมคางที่มาสเตอร์พีซ คลีนิก

4 วันหลังเสริมคางที่มาสเตอร์พีซ คลีนิก

บางคนมองแล้วอาจคิดว่าปลายคางที่ดูแหลม แต่มันเริ่มยุบลงเรื่อยๆ นะคะ ช่วงนี้หลายคนรวมทั้งตัวแนนเองก็อาจจะมีอาการจิตตก นอยด์ๆ พยายามหาอะไรทำ อย่านอนเยอะ แล้วก็กินยาให้ตรงเวลาค่ะ เดี๋ยวอาการบวมจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ

14 วันหลังเสริมคางที่มาสเตอร์พีซ คลินิก

จากรูปจะเห็นว่าคางใหม่ของแนนเริ่มเรียวปรับเข้ากับรูปหน้าขึ้นเรื่อยๆ นะคะ ดูเป็นธรรมชาติไม่หลอกตา ไม่ยาวเกิน สำหรับหลายๆคนเคยถามแนนก่อนหน้านี้ว่าทำขนาดอะไร คือก่อนอื่นซิลิโคนมีหลากหลายขนากมากไม่ได้มีแค่ s m l มีมากกว่านั้น เพราะโดยปกติแล้วรูปฐานโครงสร้างใบหน้าของเราไม่เท่ากันคางก็เช่นกัน หมอจะจับและดูว่ารูปทรงเป็นแบบไหน เราอยากได้ประมาณไหนบอกหมอได้ แต่แนนให้หมอเลือกให้เลยซึ่งตัวแนนเองไม่อยากได้โอเว่อร์แต่ขอแบบสวยงามดูดี

ถ่ายมุมไหนก็สู้กล้อง สวย มั่นใจได้ทุกมุมค่ะ

เรียกว่า คางรับทรัพย์ ได้เลยค่ะ ตั้งแต่ทำมาคืองานเยอะขึ้นเยอะเลย

หลังจากการทำเสร็จสิ้น คือตรงใจ รักเลย❤ คือดูกระจกแล้วพูดกับตัวเองว่าน่าจะทำตั้งนานแล้วว เป็นอีกทางเลือกสำหรับสาวๆที่อยากมีรูปหน้าที่สวยงามขึ้นกับการทำคางแบบปลอดภัยนะคะ สำหรับใครที่สนใจถามแนนมาได้เลยนะคะ หรือจะสอบถามผ่าน Facebook หรือ Line ของมาสเตอร์พีซตลินิกโดยตรงก็ได้ค่ะที่ masterpiece clinic by dr.sae เลยน้า

ขอบคุณกระทู้รีวิวจาก sanook

สามารถติดต่อได้ที่

Call Center : 02-1054370
Facebook : masterpiececlinicbeauty
Instagram : masterpiece_Hospital
Line : @masterpiececlinic
Youtube : Masterpiece Clinic