ตาแบ๊วได้ใจ ตั้งแต่ไปทำตาสองชั้น^^
เราอยากทำตาสองชั้น เพราะมีปัญหาชั้นตาไม่เท่ากัน แบบข้างหนึ่งชั้นดูหลบใน อีกข้างหนึ่งชั้นตาไม่มีเลย พ่อกะแม่ก็ชอบบอกว่าตาดูแข็งๆนะลูก โกรธใครมาหรือเปล่า? มันทำให้รู้สึก เฮ้ยเราไม่ได้โกรธใครจริงๆนะ ทำไมต้องทักกันบ่อยๆ ด้วย สรุปเรากลายเป็นคนเคร่งเครียดกว่าเดิมอีก ทำให้คิดว่าไปทำตาสองชั้นดีกว่า เห็นในรีวิวหลายคนไปทำตาสองชั้นแล้วหน้าดูหวานมาก แถมดูเด็กลงด้วย
ก็เลยหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต แล้วก็ลองเข้าไปปรึกษาตามคลินิกต่างๆ หลายคนแนะนำให้ไปทำตาสองชั้นกับหมอเส เพราะที่นี่เค้าเน้นทำตาออกให้ดูธรรมชาติ เราก็จัดแจงลองเข้าไปปรึกษาซะหน่อย เพราะที่อื่นๆ ที่ไปปรึกษาทำตาสองชั้นมายังไม่โดนใจเท่าไหร่เลย
ที่นี่เค้าต้องเข้ามา 2 รอบ คือ ปรึกษา และค่อยเข้ามาทำตาสองชั้นวันหลัง ทางเพจคลินิกบอกมาแบบนี้ แล้วก็เชียร์ให้เราทำตากับหมอบุ๊ง
เพราะหมอเสคิวรอนานมาก แต่หมอบุ๊งก็ทำตาออกมาสวยเหมือนกัน แล้วพี่ทางเพจก็ส่งภาพคนที่เคยทำกับหมอบุ๊งมาให้ดู ตาก็สวยนะ โอเคอยู่ ดูธรรมชาติไม่หนาเกิน ก็เลยขอวันปรึกษากับทางคลินิก
ตอนเราไปปรึกษาเราก็นั่งบีทีเอสมาลงสยาม แล้วก็เดินต่อนิดหน่อยก็เจอ หาไม่ยาก เพราะอยู่ตรงหัวมุมพอดี เข้าไปที่คลินิกจะมีพนักงานมาต้อนรับแล้วกรอกข้อมูล นั่งรอนานอยู่สมควรเพราะไปวันเสาร์คนเยอะ แทบไม่มีที่นั่ง ดีที่ไปคนเดียว เลยไปเบียดๆ แถวหน้าเค้าเตอร์ ที่นี่มีน้ำกับขนมให้กินเล่นอยู่ พนักงานก็เอาน้ำกับขนมมาให้กิน ก็ดีนะฆ่าเวลาระหว่างรอ
เข้าไปปรึกษากับหมอ ก็ไม่มีอะไรมาก หมอก็มาจับๆ วัดๆที่ตานิดหน่อย แล้วถามว่าถ้าทำแบบกรีดหนังตาไหวมั้ย เราเป็นคนหนังตาเยอะ คงต้องกรีดแล้วเย็บใหม่ให้เนื้อน้อยลงแล้วมีชั้นตาเยอะขึ้น เราก็ไม่ได้มีปัญหากับเรื่องวิธีการของหมอยู่แล้ว ก็บอกว่าได้ แต่ไม่อยากได้ชั้นที่หนาเกินไป หมอเลยแนะนำให้ดูดไขมันที่ตาเพิ่ม เพราะจะได้ไม่ทำชั้นตาหนามาก และหนังตาก็จะไม่ตกลงมาปิดชั้นตาด้วย
พอคุยเสร็จก็ขอหมอกับพนักงานที่ดูแลกลับบ้านก่อน ที่จริงก็ชอบที่นี่แต่ ลองไปดูที่อื่นๆ อีกซักที่สองที่ไว้ตัดสินใจดีกว่า สรุปเราไปปรึกษาอีก 3 ที่ แต่ก็ยังไม่ถูกใจเท่าไหร่ เลยตัดสินใจเลือกที่มาสเตอร์พีซดีกว่า เพราะดูโอเคที่สุดแล้ว ก่อนทำตาต้องงดวิตามิน และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเลย 14 วัน เพื่อไม่ให้เลือดออกเยอะเกินไป แล้วก็ไม่ให้แผลติดเชื้อ เราก็ไม่ได้กินวิตามินหรือดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว บอกเลยว่าก่อนทำตื่นเต้นมาก รอตั้ง 2 อาทิตย์ ก็อยากรู้ว่าผ่าตัดแบบกรีดตาเป็นแบบไหนก็เลยค้นในอินเตอร์เน็ตดู เผลอไปดู Youtube โอ้แม่เจ้า! น่ากลัวมากกกกก แต่จะโทรไปขอยกเลิกก็เสียดายเงินที่มัดจำไป ก็เลยเอาวะ! ลองทำดูแล้วกัน…
ในที่สุดก็ถึงวันทำตาสองชั้นแล้ว หลังจากรอมา 2 อาทิตย์ ตื่นเต้นหนักเข้าไปอีก พนักงานคลินิกที่ดูแลเรา เค้าก็บอกให้หายใจเข้าลึกๆ ไม่ต้องห่วง เพราะคุณหมอจะมียาเบลอมาให้ ตอนทำตาไม่น่ากลัวแน่นอน เค้าก็ทำที่นี่มาเหมือนกัน หมอมือเบามากๆ ไม่เจ็บเลย พูดจนเราหายตื่นเต้นไปเลย
แต่พอจะเข้าห้องผ่าตัดเราก็ยังตื่นเต้นไม่หยุดอีก พนักงานก็เลยชวนเราคุย เราก็หายตื่นเต้นไปบ้าง พอเข้าห้องผ่าตัด พนักงานก็บอกให้หายใจเข้าออกลึกๆ เราก็เข้ามานอนบนเตียง แล้วก็มีพยาบาลมาทำความสะอาดหน้าให้ หมอก็มาคุยกับเรานิดหน่อยบอกว่าจะฉีดยาเบลอให้นะคะ ถามว่าฉีดยาเบลอเป็นยังไง ก็เบลอสมชื่อนั่นแหละค่ะ คือไม่รู้สึกตื่นเต้น ไม่ตกใจ มันงง มันมึน มันอะไรเป็นอะไรที่บอกไม่ถูกเลย พูดอะไรออกไปบ้างก็ไม่รู้ ประมาณนั้น แต่ก็ไม่นานนะ ประมาณ 20 นาทีก็หายมึน แต่เราก็หายตื่นเต้นเหมือนกัน คือรู้นะว่ามีอะไรมาอยู่ที่ตาแต่มันไม่เจ็บเลย
ทำเสร็จส่องกระจกดู โอ้โห…แดงมาก นอยด์สุดๆ คือมันไม่เจ็บเลยนะแค่ตึงๆ แต่เรื่องแดงเราไม่ค่อยโอเคไง เรากลัวมันไม่หายช้ำ พนักงานคนเดิมก็บอกว่าเรื่องช้ำมันเป็นปกติ ประคบร้อน ประคบเย็นบ่อยๆ เดี๋ยวก็หาย คือเค้าให้กำลังใจเยอะมาก
3 วันแรกประคบเย็นที่ตาหนักมาก ชั่วโมงเว้นชั่วโมงเลยทีเดียว ก่อนนอนก็เอามาวางไว้จนหลับไปเลย ตาหายช้ำไวมากแต่ยังรู้สึกว่าบวมอยู่ดี เราก็ประคบเย็นวนไปค่ะ พนักงานเค้าแนะนำให้ประคบเย็น 7 วันจนกว่าจะตัดไหมเลย ส่วนเรื่องออกไปข้างนอก เราออกไปไหนมาไหนได้ตั้งแต่วันแรกเลยนะ แต่สวมแว่นกันแดดไว้กันฝุ่นอย่างเดียว
ครบ 7 วันแล้ว ตอนแรกกลัวว่าจะตัดไหมไม่ได้ เพราะแผลค่อนข้างแห้ง แต่ก็ผ่านไปด้วยดี หมอบอกว่าอีก2-3 เดือน ตาจะเข้าที่กว่านี้ตอนนี้ให้ประคบร้อนไปก่อน แล้วก็นัดมาดูตาอีกทีตอนครบเดือน
2 เดือนกว่าๆ ตั้งแต่ทำตาสองชั้นมา พ่อแม่ไม่ถามเรื่องหน้าเครียดแล้วค่ะ ส่วนคนรอบตัว บอกว่าดูดีกว่าเมื่อเทียบกับตอนที่ยังไม่ได้ทำ ดูน่ารักขึ้น แถมทำให้เรากล้าที่จะแต่งหน้าแต่งตามากขึ้นด้วย (ปกติเราเขียนแต่คิ้ว) เดี๋ยวสิ้นเดือนก็จะครบสามเดือนแล้ว ไปหาหมออีกครั้ง ถ้ามีความคืบหน้ายังไงเราจะมาอัปเดตให้ดูกันนะคะ^^
ขอขอบคุณกระทู้รีวิวจาก dodeden