[CR][SR]แชร์มหากาพย์ความสวย เปลี่ยนตัวเองจากหมวยซิ้มเป็นหมวยเกาหลีค่ะ

สวัสดีจ้าเพื่อนๆ ทุกๆ ท่าน ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่อเกตุค่ะ เป็นครั้งแรกเลยที่ได้มาเขียนกระทู้พันทิปในห้องเครื่องแป้งเลย ฮ่าๆ ปกติก็มีมาส่องหาเคล็ดลับความสวยอยู่บ้าง รอบนี้ขอเราโชว์ของ ปล่อยเคล็ดลับความสวยจากหมวยๆ จนสวยลืมโลกไปเลยจ้า(เว่อจริง ฮ่าๆ) ก่อนปล่อยของเกตุขอเล่าเรื่องของตัวเองเมื่อก่อนซักหน่อยนะ คือเกตุเองเป็นคนที่ชื่นชอบเรื่องความสวย ความงามอยู่แล้วค่ะ ตอนสมัยสาวๆ มีอะไรที่ว่าดีก็ทำตามเค้าหมด เริ่มแต่งตัวดูแลผิว บลาๆๆ จนเริ่มดูดีขึ้น แต่สิ่งที่มันเติมเต็มเราไม่ได้นั้นคือ หน้าตา คือต้องเข้าใจกันนะว่าถ้าหน้าเราใหญ่ทาครีมแล้วหน้าเรียวก็คงไม่ได้ ฟองน้ำยัดไปน้องนมก็ไม่ได้ใหญ่ขึ้นจริงๆ มันเลยทำให้เราเริ่มก้าวเท้าเข้าวงการความสวย หรือที่บางคนเรียกว่าวงการศัลยกรรมนั้นแหละจ้า

ให้ส่องความมาไกลของเราก่อน ฮ่าๆ เดี๋ยวมาเล่าว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง><

ให้ส่องความมาไกลของเราก่อน ฮ่าๆ เดี๋ยวมาเล่าว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง><

ย้อนไปสมัยแรกแย้ม ปีหนึ่งเลยตอนนั้น ยังแต่งตัวแต่งหน้าไม่เป็น ทอมสุด ห้าวสุด ต้องบอกว่าช่วงนั้นก็ไม่ได้ดูแลอะไรตัวเองเลย พอเริ่มเป็นสาวก้าวแรกของเรา คือดัดฟันเค้าบอกกันว่าดัดฟันจะช่วยให้โครงหน้าเปลี่ยน ตอนนั้นศัลยกรรมคือดูเป็นเรื่องใหญ่มากอ่า เลยขอดัดฟันไปก่อนละกัน เราดัดฟันช่วงเข้ามหาวิทยาลัย ดัดฟันอยู่ 4 ปีได้ฟันสวยหน้าเรียวสมใจเลยจ้า หลังจากดัดฟันก็เริ่มแต่งตัวและสนใจแฟชั่นมากขึ้น

ดัดฟันตาหยี๋มาก กินตั้งแต่สาวๆ

ครีมอะไรก็ได้ที่เค้าว่าขาวใส น่าสัมผัสจัดมาค่ะ นีเวียร์ ซิสตร้า เภสัช  กวนอิม จัดมาอย่าให้ขาด อดทนทาทั้งเช้าเย็น จนเริ่มเห็นผล ผิวดูใสขึ้น ขาวขึ้นนิดหน่อย เพราะปกติผิวเราค่อนข้างขาวอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือผิวเนียนขึ้น

ดัดฟันปีแรก-ปีท้ายๆ ช่วงมหาลัยจ้า เรียนปีสุดท้าย ช่วงสาวๆ

เล่าเรื่องศัลยกรรม

ทีนี้พอเราเรียนจบสิ่งแรกที่เราเริ่มศัลยกรรมก็คือ ทำตาสองชั้น คืออย่างที่เห็นเมื่อก่อนเราหมวยมาก หมวยตาปิดเลยแหละเธอ ยิ้มทีไม่เห็นลูกตาดำเลย มันก็มีปัญหาคือแต่งหน้าหนักแค่ไหนก็ดูหมวยอ่า ก็ปรึกษากับที่บ้านว่าทำตาสองชั้นดีมั้ยเพราะยังกลัวๆ กล้าๆ ที่บ้านก็ใจดีจ้า อยากทำก็ทำเลยลูก แต่ให้เราทำกับโรงพยาบาลนะ เพื่อความปลอดภัยเป็นโรงพยาบาลยังไงก็มีมาตรฐานกว่าคลินิกแน่ๆ เราก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ก็เลยไปทำตาสองชั้น คุณหมอแนะนำให้ทำแบบกรีดตัดหนังตาบน เพราะหนังตาเราเยอะมาก พอทำตาเสร็จก็พักหน้าอยู่ได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ตาสวยสมใจอยากเลยค่ะ >< แต่งหน้าง่ายตาดูโตแบ๊ว มีแต่คนทักว่าน่ารัก โอ้ยเรานี่ปลื้มตามากช่วงนั้น

หลังทำตารอบแรกจ้า

แล้วก็เริ่มมีการถ่ายแบบ กุ๊กๆกิ๊กๆ ร้านเสื้อผ้าบ้าง ออกอีเว้นท์บ้าง เราพักหน้าไปปีนึงได้ ก็เริ่มมีความอยากสวยเพิ่มขึ้นไปอีก ทีนี้อยากทำจมูกจ้า ช่วงนั้นกระแสเกาหลีกำลังมา จมูกแบบเกาหลี คือสวยดูโด่งแบบธรรมชาติมาก จมูกเราเดิมๆ มันดูแบนๆ ไม่มีมีมิติเลย ถ่ายรูปทีก็ต้องหามุมแล้วหามุมอีก คือยิ่งถ่ายแบบด้วยแล้ว หน้าก็ต้องดีระดับนึง เราเลยตัดสินใจทำจมูก

ก่อนทำจมูก

ตอนแรกเราว่าจะทำจมูกแค่จมูกซิลิโคน แต่ด้วยความที่มันแบนแบบดั้งก็ไม่มี ปลายก็ไม่มี คุณหมอก็เลยแนะนำให้ทำแบบปรับ โครงสร้างจมูก คือ มีการทุบฐานให้เล็กลง ใส่กอเท็กซ์แทนซิลิโคน แล้วก็คุณหมอใช้กระดูกอ่อนแกนกลางจมูก(กระดูกอ่อนในจมูกของเราเองจ้า)มาเสริมให้ปลายจมูกสูงขึ้น พร้อมใส่กระดูกหลังหูทำหยดน้ำด้วย บอกเลยว่าพอทำออกมาแล้วดูธรรมชาติมาก คือ ถ้าไม่รู้จักเรามาก่อนนะก็มีแต่คนชมว่าจมูกสวยดูธรรมชาติมาก ทำให้หน้าดูคมขึ้น 40% เลยจ้า

หลังทำจมูก

พอเริ่มสวยก็อยากดูแลตัวเองมากขึ้นเราก็เลยเริ่มเข้าคลินิกทำผิวอย่างพวกทำผิวขาว หน้าใส เลเซอร์ อะไรพวกนี้ พอทำไปมาก็เห็นผลไง เห็นผลดีก็ทำมาเรื่อยจนทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่เลย ไม่ใช่ว่ากลัวว่าพอไม่ทำแล้วจะไม่ดีเหมือนเดิมนะ อย่างพวกทำผิวขาว กระจ่างใส กดสิว พวกนี้เป็นเพราะตัวเราเองจ้า

ดูแลผิวก๊ะ

เราเป็นคนนึงที่ชอบการท่องเที่ยวมาก ทั้งในไทยและก็ต่างประเทศ แต่ที่ชอบเที่ยวเป็นพิเศษคือ ทะเล ที่ชอบเพราะมันเหมือนให้เราได้ไปปลดปล่อยภาระหนักๆ อะไรที่มันเครียดๆ รกสมอง พอมาเห็นทะเลปุ๊ป อารมณ์ดีเลยจ้า ชอบแสงแดด เสียงคลื่น ชอบหลายๆอย่างที่เป็นทะเล แต่พอกลับจากทะเลนะ เหมือนโดนพายุเข้าอ่ะค่ะ ทั้งหน้ามัน หน้าดำ ตัวดำ สิวก็มาด้วย นั่นแหละคือสิ่งที่เราเลิกคิดเรื่องดูแลตัวเองไม่ได้ เพราะไม่งั้นมันจะโทรมหนักมากๆ

ทะเล๊ทะเล

ก็อย่างที่บอกพอเข้าคลินิกบ่อยครั้งเข้า มันก็เริ่มมีวิวัฒนาการ ฮ่าๆ ด้วยคลินิกที่เราไปทำประจำเค้ามีทำศัลยกรรมด้วยไง เวลาเราไปทำผิวปุ๊บก็จะเจอคนมากหน้าหลายตาที่มาทำผิวด้วยแล้วก็ศัลยกรรมด้วย ทำให้เกิดความคิดเล็กๆ ว่าอยากจะเสริมเติมแต่งกับเค้าบ้างเหมือนกัน เดี๋ยวเราขอเอาส่วนที่เหลือไปใส่ต่อในคอมเม้นต์น้า

ตอนนั้นมีแพลนในใจที่จะทำศัลยกรรมเพิ่มอยู่ 2 อย่างคือทำปากกระจับกับทำน้องนมให้ดูมๆ ขึ้น เลยขอลองทำปากกระจับก่อนเลยจ้า เพราะเราปากค่อนข้างหนาไง เพื่อนบอกดูเซ็กซี่ดี แต่เราอยากให้มันดูเล็กกว่านี้ ก็เลยเข้าไปปรึกษาคุณหมอ ซึ่งคุณหมอก็แนะนำให้ทำเป็นแนวปากกระจับดีกว่า คือ ไม่ต้องเอาความหนาของปากออกมามาก แต่ทำให้เข้ารูปมากขึ้นดีกว่าปากจะดูเซ็กซี่อวบอิ่มประมาณนี้จ้า พอทำออกมาถามว่าชอบมั้ย ว้าวหรือเปล่า บอกเลยว้าวมาก แลดูหน้ามีอะไร ดูปากกระจุ๋มกระจิ๋มแบบดูมีทรงแต่ก็อวบอิ่มไม่บางจนน่ากลัว ไม่กระจับจนดูปลอม แค่นี้พอใจแล้วค่ะ

หลังทำปาก

หลังทำปากจ้า

ตัดสินใจทำหน้าอก

ด้วยความอยากดูเป็นสาว อยากดูโตขึ้นของเรา เราเลือกที่จะเสริมน้องนมต่อเลยค่ะ ครั้งนี้ทำที่เดิมไม่ได้เปลี่ยนที่ทำใหม่ เพราะเรามาทำผิวอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้วด้วย เรียกว่าไว้ใจเลยค่ะ ทำผิว ทำหน้ากับที่นี่บ่อยแล้วก็ไม่คิดจะหนีไปทำที่อื่นแล้วค่ะ เราปรึกษาคุณหมอว่าจะทำนม 325 CC. ซิลิโคน Mentor เนื้อทรายจ้า ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป ฮ่าๆ คือทำมาให้ใส่เสื้อผ้าสวยดูเป็นหญิง ไม่ดูเหมือนเด็กน้อยเป็นพอ

การทำนมครั้งนี้ตื่นเต้นมากค่ะ เพราะต้องดมยาสลบด้วย คุณหมอบอกให้งดน้ำอาหารก่อนทำ 8 ชั่วโมง ก่อนทำเราก็เทเพื่อนเลยจ้า ใครนัดไว้ไปกินบุฟเฟ่ปิ้งย่างบลาๆ เราปัดเททิ้งหมด ฮ่าๆ คืนนั้นลงเอยด้วยการนอนแทบไม่หลับแถมหิวด้วยสิ ทรมานมากอ่ะ แต่เพราะความอยากสวยก็ต้องทนวนไปจ้า

ช่วงนั้นได้แต่แอ่นกระดานรับลมไปสิ T T

ช่วงนั้นได้แต่แอ่นกระดานรับลมไปสิ T T

แต่พอเข้าไปทำจริงๆ คุยกับคุณหมอ มีวาดรูป วัดทรง ขึ้นเตียง วิสัญญีมาให้ดมยาสลบ นับ 1 2 3 เราเฝ้าพระอินทร์ทันที ฮ่าๆ ไวเว่อ ตื่นมาอีกทีก็มีน้องนมให้หนักอกหนักใจแล้ว แต่ด้วยความเปรี้ยวของเราก็ขอเดินช้อปปิ้งต่ออีกหน่อยจ้า หรือว่าเราถึกไป เอาตรงๆ เราว่าตอนทำจมูกยังใช้ชีวิตลำบากกว่าทำน้องนมเลย ฮ่าๆ ผลตอบรับจากการทำนมเรียกได้ว่าถล่มถลาย ไปไหนมีแต่คนทัก บอกว่าดีดูธรรมชาติไม่เว่อเกิน เวลาติดต่อคุยงานก็ไม่โดนมองว่าเป็นเด็กแล้ว คือดีอ่ะ เสริมน้องนมทีเดียวชีวิตเปลี่ยน

หลังเสริมนมจ้า

หลังเสริมนมจ้า

หลังทำนมเสร็จเราก็เลยว่าคงต้องวางมือจากวงการนี้และ ทำมาเยอะ ชีวิตเดินมาไกลมาก ฮ่าๆ ทำแค่ผิวกับโบท็อกซ์อะไรพวกนี้คงพอ แต่คุณขา เราพักไปได้ปีเดียวเท่านั้นแหละก็มีเรื่องให้เราอยากทำอีก อย่างที่บอกว่าเราเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยว ชอบกินมาก เวลาไปเที่ยวต้องกินอิ่ม นอนหลับ ลุกนั่งสบาย

กิ๊นกิน

แต่ช่วงหลังๆ น่าจะกินหนักไปเลยรู้สึกว่าตัวเองบวมขึ้นอ่ะนะ ยิ่งที่หน้าและที่พุงนี่ยื่นมาเซไฮกันทุกวันเลยจ้า คือต้องบอกก่อนว่าเราก็ออกกำลังกายอยู่ พุงก็ยังพอลดให้เราบ้างแต่หน้าเราบวมแล้วบวมเลยไม่ยอมลดจ้า แล้วพอหน้าใหญ่หน้าก็ดูไม่เท่ากันอีก เวลาถ่ายงานออกมาดูรู้เลยว่าหน้าไม่เป๊ะเหมือนเมื่อก่อน ไปเมโสครั้งล่าสุด ที่คลินิกแนะนำให้เราดูดไขมันหน้า เพราะที่คลินิกเค้ามีโปรมาใหม่ เราก็ว่าน่าลอง (อีกแล้ว) ต้องจัดซักหน่อยแล้วกัน คุณหมอก็บอกว่าจะดูดไขมันให้อีกข้างหนึ่งเยอะหน่อยนะ เพราะหน้าเราไม่เท่ากัน

คุณหมอเชี้ยว

ดูดไขมันเสร็จก็ชีวิตดี๊ดี กลับมาลั้นลาได้เหมือนเดิม กรอบหน้าชัด หน้าดูเรียวเล็กแล้ว ก็กลับมากินอิ่ม นอนหลับ ลุกนั่งสบายเหมือนเดิม เฮ้!  (รูปบนเราถ่ายกับคุณหมอที่ เสริมหน้าอก และดูดไขมันหน้าให้เราเอง มาก็บ่อยแต่เพิ่งกล้าถ่ายรูปกับคุณหมอก็รอบนี้แหละ^^)

หลังดูดเนียง

ไขมันเราเอง ดูน่ากลัวมาก ผลจากการกินไม่ยั้ง ก็แบบนี้แหละ

หลังดูดเหนียงจ้า ก่อนหลังดูดเหนียง

เทียบให้ดูเลยจ้า หน้าก่อนดูดไขมันหน้ากับหลังดูดไขมันหน้าต่างกันขนาดไหน(ซ้ายก่อน-ขวาหลัง)

พอช่วงหลังๆ มาเราก็รู้สึกว่าตัวเองชั้นตาไม่เท่ากันอีก ตอนแรกนึกว่าคิดไปเองฟุ้งซ่านมาก ช่วงนั้นเราคิดแบบว่า เห้ย…นี่เราจะเสพติดศัลยกรรมเปล่าเนี่ย คือคงเข้าใจเนอะว่าเราทำศัลยกรรมเรียกได้ว่าหลายอย่างอยู่อ่ะ บางทีก็คิดนะว่านี่เราทำเพื่อให้หน้าดีขึ้นจริงหรือเปล่า แต่ที่บ้านก็ปลอบใจเรานะ เพราะก่อนทำศัลยกรรมอะไรทุกๆครั้งเราจะปรึกษาที่บ้านก่อนอันดับแรกเลย ถ้าที่บ้านเห็นว่าไม่ดี เค้าก็ไม่ให้ทำแล้วล่ะ เราถึงรู้สึกโอเคขึ้น

ทำตาสองชั้น กับ หมอกาญจนา ลีลาภัทรานุรักษ์

(พูดเรื่องตาต่อ) แล้วยิ่งมีเพื่อนทักว่าช่วงนี้เหมือนตาตกลงไม่เท่ากันบ้าง ถ่ายรูปมาก็เหมือนตาดูไม่เท่ากันบ้าง ตอนนั้นก็ไลน์ไปปรึกษากับคุณหมอหนู (แพทย์หญิงกาญจนา ลีลาภัทรานุรักษ์) ที่คลินิก คุณหมอก็แนะนำให้มาตรวจก่อนดีกว่า พอไปตรวจสรุปว่าตาไม่เท่ากันจริงๆ คุณหมอก็กลัวว่าจะเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง แต่พอดูดีๆ แล้ว เป็นเพราะเราอายุเยอะขึ้นหนังตาก็เริ่มหย่อน มันก็เลยตก แต่เหมือนตาเราก็ไม่เท่ากันนิดๆ แต่แรกอยู่แล้วด้วย พอหนังตาเริ่มหย่อนมันเลยดูชัดกว่าเดิมจ้า

ก่อนทำตารอบสอง

ที่เห็นขีดๆ นั้นเป็นรอยแผลตอนทำตาครั้งแรกจ้า

คุณหมอหนู กาญจนา ก็เลยแก้ด้วยการเก็บหนังตาให้เท่ากัน มีเปิดหางตาข้างซ้ายเพื่อให้หางตาเฉี่ยวเท่ากันด้วย แล้วคุณหมอก็ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอีกนิดหน่อย คุณหมอบอกว่าหน้าจะได้ดูเต็ม ดูหวาน ทำเสร็จตาดูบวมนิดหน่อย และดูแดงแต่ไม่ได้ดูช้ำอะไรมาก เราพักตาอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ค่ะ แผลก็เริ่มแห้ง

คุณหมอหนูคุณหมอ กาญจนา ลีลาภัทรานุรักษ์

หลังตา 1-3-7 วันจ้า

ภาพซ้ายวันแรก ถาพกลางวันที่ 3 ภาพขวาวันที่ 7 หายบวมไวเว่อ

หลังทำตาปัจจุบันจ้า

ตอนนี้ ปัจจุบัน ณ บัด Now ก็ทำตามาเกือบเดือนแล้วค่ะ ตาเริ่มเข้าที่แล้ว เดี๋ยวครบ 3 เดือนเราจะมาอวดใหม่นะคะ

ขอสรุปสิ่งที่เราทำมาตั้งแต่ต้นเนอะ

  • มีดัดฟันไป 1 ครั้ง ฟันสวยหน้าเรียว
  • ทำตาสองชั้นครั้งแรก ชั้นตาก็มาสวยงาม
  • ทำจมูก 1 ครั้ง หน้าคมดี เราชอบ
  • ทำผิว เลเซอร์ เยอะมาก แต่ผิวก็ดีขึ้นจริง
  • ทำปากกระจับ 1 ครั้งก็ดีนะ ปากดูเข้ารูป
  • ทำหน้าอก 1 ครั้ง ดูดูมๆ ขึ้น ดูเป็นผู้ใหญ่แล้วจ้า
  • ดูดไขมันหน้า หน้าเรียวเข้ารูปเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
  • ทำตาสองชั้นรอบสอง แก้ตาเก่าที่เริ่มตกลง ให้ดูเท่ากันจ้า

รวมตั้งแต่ต้นจนตอนนี้จ้า

รวมภาพลำดับการทำหน้าทั้งหมดของเราจ้า

บอกเลยตอนนี้หน้ามาไกลมาก ที่จริงก็แอบกลัวว่าทำไปเยอะๆ จะทำให้หน้าดูปลอมหรือเปล่า แต่จากที่เราทำมาเราว่า ถ้าทำเพื่อแก้จุดบกพร่องในร่างกายให้ดูดีขึ้น และทำแบบไม่ออกมาเว่อเกินไป มันก็ช่วยให้เราดูดีขึ้นได้ อยู่ที่วิธีของแต่ละคนว่าจะมองยังไงแล้วกันจ้า แต่อันนี้เราลองมากับตัวเราเองจากประสบการณ์ตรงของเรา มันก็มีทั้งทำมาแล้วดี และทำมาแล้วดูเฉยๆ ก็มี ยังไงก็ขอฝากประสบการณ์ของเราไว้ดูเป็นประสบการณ์แล้วกันเนอะ ผู้หญิงอย่างเราคิดจะสวยแล้วต้องสวยให้สุดกันนะคะ

ขอขอบคุณกระทู้รีวิวจาก dodeden