หุ่นลูกแพร์อย่างเรา ขอดูดไขมันให้ขาเล็กซักครั้งในชีวิตเถอะค่ะ!!!

ขาหมู ขาใหญ่ มันน่าหนักใจมากๆ เลยนะคะ หลายคนอาจจะไม่เข้าใจเรา แต่การมีหุ่นลูกแพร์มันดูแลยากมากค่ะ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่กินเข้าไปมันจะไปกองที่ขาและก้นหมด เวลาซื้อกางเกงใส่บอกเลยว่าผอมขนาดไหนแต่กางเกงไซส์ s ไม่ได้แตะ เพราะมันติดขาติดสะโพก!!! การ ดูดไขมันขา ก็คงเป็นวิธีที่เอาไขมันออกเร็วที่สุด และเห็นผลง่ายสุดสำหรับเราแล้วค่ะ

 ต้นขา Before>After พอดูดไขมันก็เห็นผลชัดเจนค่ะ ในรูปหลังดูดไขมันประมาณ 2 เดือนได้

 เมื่อก่อนขาไม่ได้ใหญ่มากค่ะ เพราะปกติเป็นคนตัวเล็ก ใส่กางเกงก็ประมาณไซส์ M

หลังจากเจอช่วงกินไม่หยุดฉุดไม่อยู่เข้าไป น้ำหนักก็เด้งๆๆๆๆ ขึ้นมาเยอะมาก

ผลที่ตามมาคือขาเริ่มย้วยใหญ่ ไม่สมส่วนนี่ล่ะค่ะ

ใส่ชุดว่ายน้ำซะดิบดี ถ้าตัดภาพแค่ข้างบนก็คงดูเหมือนคนผอมทั่วไป แต่พอดูขาแล้วอืม ไม่ไหวแล้วนะ

ถ้าให้พูดตรงๆ ขอสารภาพตรงนี้เลยค่ะ ที่จริงเมื่อก่อนก็ไม่ได้ขาใหญ่ขนาดนี้นะคะ กางเกงก็ใส่ประมาณไซส์เอ็ม คือกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่มาก แต่พอช่วงหลังเราเริ่มเสพติดการกินจุบจิบค่ะ กินทั้ง MK, ชาบู, บิงซู, ฮันนี่โทส, ไอศกรีม, เครปเค้ก คือที่ไหนที่ใครว่าอร่อยก็ไปหมดค่ะ แล้วตอนนั้นก็เล่นโยคะอยู่เป็นประจำ ก็คิดไงว่าออกกำลังกายแล้วกินอะไรก็ได้ จนมารู้ตัวอีกทีกางเกงไซส์ M ก็ติดกระดุมไม่ได้แล้วค่ะ เป็นจุดที่พีคสุดในชีวิตเลยค่ะ ไม่คิดเลยว่าคนออกกำลังกายบ่อยแบบเราจะอ้วนได้ แต่พอมาคิดดีๆ ก็เพราะตามใจปากล้วนๆ นี่แหละค่ะ โทษใครไม่ได้ ก็หาวิธีแก้กันไป เคยไปฉีดคาบ็อกซี่ก็ช่วยได้นิดหน่อยค่ะ แต่ไม่ได้เปลี่ยนจนเห็นผลที่ว้าวมาก คือสัดส่วนเห็นว่าลดลงว่านิดหน่อย แต่ไม่ถึงขั้นเปลี่ยนไซส์กางเกงนี่แหละค่ะ

 มาปรึกษากับคุณหมอที่มาสเตอร์พีซค่ะ คุณหมอใจดีมากกกก

ได้เข้ามาปรึกษาที่มาสเตอร์พีซเพราะติดตามผลงานมานานค่ะ ทั้งทางหน้า Facebook และ Line รีวิวหลายคนนี้คือเห็นแล้วดีมากเลยค่ะ ขาลดลงไปเยอะ แถมไม่ต้องพักฟื้นให้เสียการเสียงานด้วย ตอนที่คุยกับคุณหมอคุณหมอน่ารักมากค่ะ เป็นกันเองและถามละเอียดมากกกก คือเราก็บอกปัญหากับหมอไปก่อนนี่ล่ะค่ะ ว่าคือเราขาใหญ่มากลดน้ำหนักแค่ไหนขาก็ไม่ลง ซึ่งคุณหมอเค้าก็เห็นด้วยนะคะ เค้าบอกปัญหาที่เรามีชัดเจนมากว่าต้นขาค่อนข้างใหญ่ และมีไขมันสะสมค่อนข้างเยอะ แต่ก็มีส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อด้วยเหมือนกันซึ่งคุณหมอก็จะดูดไขมันช่วงต้นขานอก>ขาใน>หน้าขาและแก้มก้นค่ะ คือดูดไขมันทุกส่วนของต้นขาเลย ที่จริงก็มีถามประวัติการแพ้ยา และถามว่าเคยทำอะไรที่ขามาบ้าง ซึ่งเราก็บอกค่ะว่าฉีดคาบ็อกซี่ไปซึ่งส่วนนี้ก็ไม่มีปัญหาต่อการดูดไขมันขาค่ะ คุณหมอยังบอกเพิ่มอีกว่าแผลจะมีขนาดเล็กนิดเดียวค่ะ แทบจะมองไม่เห็นและ 1 เดือนก็กลับไปออกกำลังกายเบาๆ ได้ค่ะ

วันดูดไขมันของเรา เพื่อนมาคอยดูแลและให้กำลังใจเยอะมากกก ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนนะคะ

คุณหมอแนะนำดี พนักงานบริการดี ก็ทำกับที่นี่สิคะ จะรออะไร ของเรารอทำไปประมาณ 10 วันได้ค่ะ ไม่นานมาก แล้วยิ่งเราบอกว่าจะมาดูดไขมันขาเพื่อนก็เป็นห่วงด้วย ตื่นเต้นด้วย วันทำเลยพากันมาให้กำลังใจเยอะมากอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ ตอนที่รอเข้าทำตอนแรกก็ไม่รู้สึกอะไรค่ะ นั่งเม้าส์ ถ่ายรูปกับเพื่อนสนุกมาก แต่พอเข้าผ่าตัดเท่านั้นแหละค่ะ ตื่นเต้นมาก เพราะเพื่อนก็เข้ามาด้วยไม่ได้อีก แต่คุณหมอเค้าก็บอกนะคะ ว่าจะมีการฉีดยาทำให้ผ่อนคลายนะ ไม่ต้องกังวลไป แต่เราก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี พอขึ้นเตียงคุณหมอกับพยาบาลก็มาทำนู่นนี่เต็มไปหมดค่ะ แต่ซักพักเราก็รู้สึกเบลอๆ ง่วงๆ ตอนนั้นไม่ตื่นเต้นแล้วค่ะ มันง่วงมาก

ออกมาแล้ว ไขมันเยอะม้วกกกกก

เผลอหลับไปแปปนึง แต่พอดูดไขมันขาเสร็จเราก็หายง่วงเลยค่ะ พยาบาลเอาโหลไขมันมาให้เราดู คือเราหูยมากกกกก ไม่คิดว่าไขมันเราจะเยอะขนาดนี้ คือดูในรีวิวของคนอื่นไขมันนี่ได้แค่ครึ่งเดียวของเราเอง เห็นไขมันแล้วรู้สึกว่าขาต้องยุบเยอะแน่ๆเลย แต่คุณหมอเค้าก็บอกนะคะ ว่าช่วงแรก คือ 2อาทิตย์ – 1 เดือน ขาอาจจะยังดูบวมอยู่ แต่ขาจะค่อยๆ เรียวขึ้นและอยู่ตัวในเดือนที่ 3 ค่ะ ส่วนเรื่องน้ำหนักอาจจะไม่ลดอะไร อย่างมากก็ลด 3-4 ขีดค่ะ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ถ้าคิดจะดูดไขมันเพื่อลดน้ำหนักมันไม่ลดนะคะ มันลดสัดส่วนเฉยๆ ค่ะ ส่วนเรื่องขาจะกลับมาใหญ่เหมือนเดิมอีกมั้ย กรณีนี้คุณหมอบอกว่าถ้าเรายังกินเยอะๆ เหมือนเดิม และไม่ดูแลตัวเองก็มีโอกาสกลับมาใหญ่ได้เหมือนกันค่ะ

ตอนดูดไขมันแรกๆ มันบวมๆ ช้ำๆ หน่อย แต่ปกติก็ช้ำง่าย ทำได้แค่ดูแลให้ดีขึ้น

กลับมาดูแลตัวเองที่บ้าน แต่ด้วยความที่อยากรู้ว่าขาจะยุบเมื่อไหร่ เราก็เริ่มถ่ายรูปเก็บไว้เพื่อดูความเปลี่ยนแปลงค่ะ ถ้าสังเกตวันแรกขาเราจะบวมๆ ช้ำๆ หน่อยค่ะ ปกติก็เป็นคนช้ำง่ายอยู่แล้ว มาดูดไขมันขาก็เลยมีรอยช้ำด้วยเหมือนกันค่ะ แต่รอยแผลไม่ใหญ่มากนะคะ เป็นรอยขีดเล็กๆ ค่ะ ผ่านอาทิตย์แรกไป ก็ยังรู้สึกบวมอยู่ เข้าไปปรึกษากับคุณหมอ คุณหมอก็แนะนำให้ใส่ซับพอร์ตตลอดเพื่อกระชับต้นขา พอผ่านอาทิตย์ที่สองเราก็เริ่มรู้สึกว่าขาเริ่มกระชับขึ้นค่ะ แต่ลดลงแค่ประมาณนิ้วเดียวค่ะ ยังดูไม่ลดมาก รอยช้ำที่มีก็เริ่มจางลงนิดหน่อยค่ะ แต่แผลแห้งมองเห็นเป็นแค่รอยแผลดำๆ เล็กๆ เราก็ซื้อฮีดรูดอยมาทาเพื่อลดรอยแผลค่ะ

1 เดือนค่า ปกติที่เป็นคนไม่ชอบใส่จั้มสูทเพราะดูตัน วันนี้กล้าซื้อมาใส่แล้วค่ะ โชว์ขาเรียวรัวๆ

2 เดือนค่ะ ขาลดลงไปเยอะ ดีใจมากๆ ค่ะ

2 เดือน กลับมาออกกำลังกาย เล่นโยคะเหมือนเดิมแล้วค่ะ ไม่ปวดขา ไม่เจ็บแผล มีแต่ขาเรียวๆ ให้ดูนี่ล่ะค่ะ

3 เดือนแล้วววววว ขออวดขาเรียวหน่อยนะคะ

หลังจากผ่านไป 2 อาทิตย์ ขาเล็กลงเรื่อยๆ พอครบเดือนก็เห็นว่าขาลดลงไปเยอะเลยค่ะ ขาเล็กใส่กางเกงได้แบบไม่คับแล้วค่ะ ตอนนั้นก็เริ่มหาเสื้อผ้าสวยๆ ที่คิดว่าเมื่อก่อนคงใส่สวยๆ ไม่ได้แน่ๆ ตอนนี้ใส่แล้วมั่นใจมากค่ะ ผ่านเดือนแรกก็ออกกำลังกายเบาๆ ที่บ้านค่ะ ยังไม่กล้าออกหนักมาก เข้าไปปรึกษากับคุณหมออีกครั้ง คุณหมอก็บอกว่าถ้ารู้สึกไม่เจ็บขาและแผลแล้วก็กลับไปออกกำลังกายตามปกติได้ค่ะ เราก็รอครบ 2 เดือนถึงออกไปออกกำลังกายแบบจัดหนักตามปกติค่ะ ที่จริงก็ไม่ได้เจ็บขาและแผลนะคะ แต่ไม่ได้ออกกำลังกายนาน เลยค่อยๆ วอร์มตัวเองจนพร้อมค่ะ กลับมาเล่นโยคะ เพื่อนๆ ทักกันเกรียวกราวเลยค่ะว่าขาเล็กลงมาก ขาไม่บวม ขาไม่หมูแล้วค่ะ กางเกงไซส์ M ที่ตอนนั้นใส่ไม่ได้ ตอนนี้กลับมาใส่ได้เรียบร้อยค่ะ ดีใจมากกกก ตอนที่เอาออกมาลองใส่อีกครั้งแล้วใส่ได้ เรานี่กรี๊ดลั่นบ้านเลยค่ะ ปัจจุบันก็ผ่านมา 3 เดือนแล้ว ขาก็กระชับขึ้นจากตอนเดือนที่ 2 นิดหน่อย แต่เท่านี้ก็เล็กกระชับสมใจแล้วค่ะ ต้องบอกว่าถ้าไม่คิดดูดไขมันขาตอนนั้นขาคงไม่เล็กได้ ถ้ามีปัญหาขาใหญ่แบบเราแนะนำมาปรึกษาที่มาสเตอร์พีซ คลินิกได้เลยนะคะ ทางไลน์ @masterpiececlinic ได้ค่ะ คุณหมอเค้าให้คำปรึกษาฟรีด้วย ไม่ต้องจ่ายเงินค่ะ เพราะลองมากับตัว มั่นใจขึ้น ขอบอกต่อซะหน่อย

ขอขอบคุณกระทู้รีวิวจาก dodeden.com

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Call Center : 02-1054370
Facebook : masterpiececlinicbeauty
Instagram :  masterpiece_clinic
Line : @masterpiececlinic
Youtube : Masterpiece Clinic